หนึ่งวันก่อนที่เรือรบสหรัฐฯจะยิงขีปนาวุธโทมาฮอคถล่มฐานทัพอากาศซีเรีย โดนัลด์ ทรัมป์ได้กล่าวเป็นนัยไว้ว่า ในทางการทหารแล้ว
จะไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้าว่าจะไปทำอะไรและที่ไหน
ดังนั้น การถล่มซีเรียในวันต่อมาจึงสร้างความประหลาดใจไปทั่วโลก
เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าผู้นำสหรัฐฯคนนี้จะกล้าตัดสินใจเยี่ยงนี้ นับเป็นปฏิบัติการ "ฉายเดี่ยว" ครั้งแรกของสหรัฐฯนับตั้งแต่เข้าไปเกี่ยวข้องในวิกฤติซีเรีย
อีก 7 วันต่อมา โลกต้องช๊อคครั้งใหญ่อีกครั้งกับสิ่งที่ไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จักมาก่อนเมื่อสหรัฐฯทิ้งระเบิด "พญาบอมบ์" ที่มีขนาดและพลานุภาพมากที่สุด(รองจากอาวุธนิวเคลียร์) ในอัฟกานิสถาน แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยตามที่ท่านผู้นำได้บอกไว้จริงๆ
หากยึดหลัก "I do it my Trump way" ที่เป็นสไตล์ของท่านผู้นำคนนี้แล้ว อาจจะตีความได้ว่า ถ้าไม่เซอร์ไพรซ์โลกแล้ว ทรัมป์จะไม่ทำ ถ้าจะทำต้องเซอร์ไพรซ์ ไม่มีใครคาดเดาล่วงหน้าได้
ดังนั้น
การส่งกองเรือรบโดยเฉพาะเรือบรรทุกเครืองบินขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง
Carl Vinson มุ่งหน้าไปที่คาบสมุทรเกาหลี เพื่อหวังก่อศึกถล่มเกาหลีเหนือ
จึงไม่น่าจะเข้าข่าย "เซอร์ไพรซ์"
ถ้าจะคิดสั่งสอนและลงโทษเกาหลีเหนือจริงๆ คนอย่างโดนัลด์ ทรัมป์คงจะไม่ทำอะไรในสภาพที่คนทั้งโลกโดยเฉพาะเกาหลีเหนือเห็น(กองทัพเรือ)โจ่งแจ้งขนาดนี้
ปฏิบัติการล่าสุดทั้งในซีเรียและอัฟกานิสถานดูเหมือนจะบ่งบอกเช่นนั้นว่า ถ้าทำจะไม่บอก
แต่ถ้าบอกจะไม่ทำ
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น