ถึงแม้จะระดมยิงถล่มใส่ฐานทัพอากาศของ
ซีเรียด้วยขีปนาวุธโทมาฮอคถึง 59 ลูก แต่ดูเหมือนว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นน้อยเกิน
กว่าที่จะเป็นจริงได้ ทั้งในแง่จำนวนผู้เสียชีวิต (6-7 ราย) และจำนวนเครื่องบินรบในฐานทัพ
จนเกิดข้อสงสัยว่า รัฐบาลซีเรียมี "ของดี" หรืออย่างไร
จึงทำให้อาวุธร้ายแรงของสหรัฐฯยิงพลาดเป้าไป
หากข้อมูลคำยืนยันของโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯและโฆษกประจำตัวของผู้นำรัสเซียน่าเชื่อถือมากกว่าคำพูดของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ
แสดงว่า
สหรัฐฯได้แจ้ง(เตือน)ให้ทางการรัสเซียทราบล่วงหน้าหนึ่งชั่วโมงก่อนจะเริ่มยิงขีปนาวุธ
ด้วยเหตุผลความเป็นไปได้ต่างๆนานา
หนึ่งคือเหตุผลทางทหาร
เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่อาจจะนำไปสู่ปะทะและตอบโต้ทางทหารระหว่างสองมหาอำนาจ
จนทำให้สถานการณ์เลวร้ายเกินคาดคิดได้
ทั้งนี้
เมื่อตอนที่รัสเซียตัดสินใจส่งเครื่องบินรบลำแรกไปช่วยเหลือรัฐบาลซีเรียในการปราบกลุ่ม
ISIS ในวันที่ 30 กันยายน 2015 นั้น
รัสเซียได้แจ้งให้ทางการสหรัฐฯ (ผ่านทางสถานทูตสหรัฐฯในกรุงแบกแดก อิรัค)
ทราบล่วงหน้าหนึ่งชั่วโมงก่อนจะเริ่มปฏิบัติการ
ข้อแตกต่างระหว่างปี 2015 และปี 2017 ก็คือ ในปี 2015
เหมือนเป็นการแจ้งเพื่อทราบเท่่านั้น แต่ในปี 2017
สหรัฐฯแจ้งล่วงหน้าเพื่อให้รัสเซียมีเวลาเคลื่อนย้ายกำลังพลและเครื่องบินรบยุทโธปกรณ์ต่างๆ(เป็นการชั่วคราว)
ออกจากฐานทัพอากาศที่เป็นเป้าหมายภายในหนึ่งชั่วโมง
ด้วยเหตุนี้เอง
จึงแทบจะไม่ปรากฏว่า กองทัพรัสเซียได้รับความเสียหายหรือสูญเสียบุคลากรเลย ยิ่งไปกว่านั้น
ดูเหมือนขีปนาวุธโทมาฮอคจะยิงออกนอกเป้าหมายเป็นส่วนใหญ่
เหมือนเจตนายิงทิ้งยิงขว้าง?
สองคือเหตุผลทางการเมือง นอกเหนือจากเรื่องเรตติ้ง
(ที่เคยนำเสนอก่อนหน้านี้)แล้ว สิ่งที่สร้างความกังวลให้กับโดนัลด์
ทรัมป์และทีมงานมากที่สุด ณ เวลานี้ก็คือความอยู่รอดทางการเมือง เพราะ
การสอบสวนสืบสวนความผิดของท่านผู้นำในข้อหาใกล้ชิด
ร่วมมือหรือได้รับความช่วยเหลือจากรัสเซียนั้นเข้มงวดเข้ามาทุกขณะ
มีโอกาสสุ่มเสี่ยงว่าจะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งได้
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น