19 กรกฎาคม 2557

แชมป์ฟุตบอลโลก 2014 – เยอรมนีกับมิติทางประวัติศาสตร์

.

ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของทีมชาติเยอรมนีในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 4 คือการประกาศศักดาว่า ณ ชั่วโมงนี้ ทีมชาติเยอรมนีคือหมายเลขหนึ่งในโลกลูกหนังอย่างแท้จริง โดยไม่เหลือพื้นที่ว่างให้ทฤษฏีสมคบคิดใดๆหรือคำกล่าวอ้างว่าเป็นแชมป์แบบฟลุ๊กๆได้เลย
แต่ในอีกมุมหนึ่ง หากเราพิจารณาข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์หลายๆหน้าแล้ว จะเห็นได้ว่าฟุตบอลเป็นเกมกีฬาที่มีความเชื่อมโยงกับชนชาติเยอรมันมาตั้งแต่ยุคของฮิตเลอร์ ย้อนหลังไปเมื่อ 75 ปีที่แล้วเรื่อยมาจนถึงปีปัจจุบันที่ครบรอบ 100 ปี ของสงครามโลกครั้งที่ 1 พอดิบพอดี 
ถึงแม้ว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นของเด็กๆอังกฤษในวัยเรียนเมื่อปี 2009 ซึ่งมีจำนวนหนึ่งที่ยังเข้าใจผิดคิดว่าฮิตเลอร์คือชื่อของโค๊ชฟุตบอลเยอรมัน  แต่ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์แล้ว ฮิตเลอร์คือผู้นำกองทัพนาซีอันระบือโลกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  คือผู้นำเยอรมนีที่พกพาแรงแค้นจากผลของสงครามโลกครั้งที่ 1 มาจุดชนวนก่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จนสร้างความเสียหายให้แก่มนุษชาติมากที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้





ถึงแม้จะมีพรสวรรค์ทางด้านศิลปะขีดเขียนมากกว่าชั้นเชิงการเตะลูกหนัง แต่ฮิตเลอร์ก็ไม่รีรอที่จะใช้ประโยชน์จากเกมฟุตบอลให้มากที่สุด เพื่อผลทางการเมืองและเพื่อตอบสนองความเชื่อที่ว่า คนเยอรมันซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มชนชาติอารยันถือเป็นชนชาติที่มีอารยะสูงส่งเหนือกว่าชนชาติอื่นๆในปฐพี  ดังนั้น เยอรมนีจึงต้องเป็นเลิศในทุกๆด้านรวมทั้งด้านเกมฟุตบอล

ครั้งแรกและครั้งเดียวสำหรับฮิตเลอร์ในการเข้าสนามฟุตบอลปี 1936
ฮิตเลอร์ต้องการให้เยอรมนีได้แชมป์ฟุตบอลโลก 1938  ดังนั้น ภายหลังจากที่กองทัพนาซีสามารถยึดครองและผนวกออสเตรียได้แล้ว จึงได้มีการสั่งยุบทีมชาติออสเตรีย(ซึ่งเป็นบ้านเกิดของฮิตเลอร์) แล้วบังคับให้นักเตะของออสเตรียซึ่ง ณ เวลานั้นเป็นหนึ่งในมหาอำนาจลูกหนังยุโรปมาสวมใส่เสื้อ “อินทรีย์เหล็ก” เพื่อเป็นหนทางลัดทำให้ทีมเยอรมนียิ่งใหญ่ได้ในทันทีทันใด แต่ความฝันของฮิตเลอร์ก็พังทลาย นอกจากจะไม่สามารถประกาศศักดาความเหนือชั้นกว่าได้แล้ว  ทีมเยอรมันในยุคฮิตเลอร์ก็มีผลงานที่ย่ำแย่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังเมืองเบียร์


7 กรกฎาคม 2557

ตำนานนายทวารบราซิล :-ฮีโร่ - ซี่โร่

.

กลายเป็นฮีโร่ชองชาวบราซิลไปในทันทีสำหรับจูลิโอ ซิซาร์ ผู้รักษาประตูบราซิลเลี่ยน ที่สามารถเซฟลูกจุดโทษได้ถึง 2 ประตู จนทำให้ทีมชาติบราซิลเอาชนะชิลีไปได้แบบหัวใจแทบจะแตกสลาย ผ่านทะลุเข้าไปสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบหัวใจจะวายตายกันทั้งประเทศ เรียกว่า จูลิโอ ซิซาร์ เซฟบราซิลจากหายนะก็ว่าได้ 

 นอกเหนือจากเกม 120 นาทีที่ต่อด้วยการดวลจุดโทษตัดสินชี้ขาดผู้ชนะในสนามแล้ว เรื่องราวของจูลิโอ ซิซาร์ นายทวารร่างยักษ์สะท้อนให้เห็นมุมต่างๆในวงการฟุตบอลบราซิลอย่างน่าสนใจชนิดที่แฟนๆลูกหนัง(ไทย)ส่วนใหญ่ไม่รู้ ไม่สนใจหรือมองข้ามไป  








โดยข้อเท็จจริงที่น่าทึ่งแล้ว บราซิลสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกถึง 5 สมัยมากกว่าใครๆในปฐพี เป็นประเทศที่ผลิตนักฟุตบอลระดับโลกในตำแหน่งต่างๆ มากกว่าที่ประเทศอื่นๆจะสามารถทำได้ ตั้งแต่ยุคเปเล่ในปี 1958 ส่งผ่านต่อไปยังยุคซิโก้ในช่วงทศวรรษ 1980 จนถึงเนย์มาร์ในปัจจุบันนี้ เป็นนักเตะระดับโลกทั้งที่เป็นบราซิลผิวขาวและบราซิลผิวสีใน(เกือบ)ทุกๆตำแหน่ง 

มอเตอร์ หรือ สติกเกอร์

เมื่อตอนที่ Real Madrid ทีมดังในสเปนตัดสินใจขาย Claude Makelele ให้กับทีม Chelsea แล้วซื้อ David Beckham มาแทนที่ในช่วงกลางปี 2003 ปรา...