.
เมื่อเกือบ 30 ปี นายกรัฐมนตรีมากาแรต์ แธตเชอร์ แห่งเกาะอังกฤษ เคยพูดด้วยว่า ชีวิตของคนเราจะถือว่าล้มเหลวหากเมื่อพ้นเลยวัย 26 แล้วยังพึ่งพารถสาธารณะอยู่.
ผู้นำอังกฤษเจ้าของสมญานาม "สตรีเหล็ก" ท่านนี้ มีเจตนาดีที่จะกระตุ้นเตือนให้คนอังกฤษมีงานทำ มีจุดมุ่งหมายในชีวิต มีบ้านมีรถเป็นของตนเอง
.
แต่ไม่น่าเชื่อว่า คนอังกฤษจำนวนไม่น้อยกลับตีความไปในทางตรงกันข้ามจนส่งผลเสียหายต่อส่วนรวม เพราะปรากฏว่า หลังจากนั้น คนอังกฤษจำนวนมากต่างพากันดิ้นรน ขวนขวายมีรถยนต์เป็นของตัวเอง เพื่อไม่ให้ใครคนอื่นๆมองว่าเป็นคนล้มเหลว
.
จึงไม่เป็นที่สงสัยว่า ในช่วงเทศกาลคริสมาต์ต่อเนื่องปีใหม่ คนอังกฤษโดยเฉพาะในมหานครลอนดอนนิยมขับรถกลับบ้านเกิดไปเยื่ยมครอบครัว จนรถติดยาวเหยียดเป็นร้อยกิโลเมตรจากลอนดอนไปจนถึงแมนเชสเตอร์จนดูไม่น่าเป็นจริงได้ นี่คือผลที่เกิดจากการตีความเจตนาของผู้นำแบบผิดๆ จนเกิดความเสียหายตามมาอย่างไม่น่าเชื่อ
.
เป็นสภาพที่ไม่ต่างจากที่เมืองไทย ที่เราจะเห็นสถาพรถติดยาวเหยียดในช่วงเทศกาล 7 วันอันตาย ตลอดทุกเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน ภาคเหนือและภาคใต้จนกลายเป็นภาพชินตา
.
แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างกัน
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น