5 ตุลาคม 2558

วิกฤติซีเรีย : รัสเซียมาแล้ว (ตอนที่ 2)

'

ประเด็นสำคัญต่อมาที่จำเป็นต้องกล่าวถึงก็คือ ทำไมหรือด้วยเหตุผลเป้าหมายใดที่ทำให้ประธานาธิบดีปูตินจึงตัดสินใจยกกองทัพไปช่วยเหลือรัฐบาลซีเรียในครั้งนี้ จนเกิดกระแสช๊อคไปทั่วโลกและหวั่นวิตกว่าจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3(?)
ในเป้าหมายหลายๆประการที่ผ่านการชั่งน้ำหนักคิดคำนวณของผู้นำรัสเซียแล้ว ดูเหมือนว่า วิกฤติซีเรียในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้รัสเซียสามารถ “ยิงปืนนัดเดียวได้นกเป็นฝูง”  โดยไม่ได้เรียงลำดับน้ำหนักความสำคัญของแต่ละเป้าหมาย ดังนี้


เมื่อวิกฤติซีเรียเปิดโอกาสให้รัสเซียปิดประตูยูเครน


หนึ่ง ปัญหาหนักอกหนึ่งที่ใกล้ตัวรัสเซียที่สุดและทำให้รัสเซียต้องเผชิญหน้ากับฝ่ายตะวันตก ณ ปัจจุบันก็คือปัญหายูเครน ดังนั้น วิกฤติซีเรียจะเปิดโอกาสให้โลกหันเหมาสนใจซีเรียมากขึ้นและปัญหายูเครนน้อยลง  

เชเชน : ภัยคุกคามในบ้านของรัสเซีย

สอง ปัญหาสำคัญหนึ่งที่ถือเป็นภัยคุกคามรัสเซียโดยตรงและเป็นประเด็นที่รัฐบาลรัสเซียหยิบยกมาอ้างเป็นเหตุผลสำคัญหนึ่งในการไปช่วยเหลือกองทัพซีเรียก็คือปัญหาชาวเชเชนมุสลิม(ที่มาจากพื้นที่เชกเนียของรัสเซีย)จำนวนมากที่ร่วมรบอยู่ในกลุ่ม IS ดังนั้น รัฐบาลรัสเซียจึงถือเป็นภารกิจที่จะต้องกำจัด “เชื้อร้าย” นี้ก่อนที่ชาวเชเชนกลุ่มนี้จะกลับมาสร้างปัญหาใหญ่ในวันหน้าให้กับรัสเซีย

คลื่นผู้อพยพหนีภัยสงครามการเมือง

สาม ก่อนหน้าจะเกิดปฏิบัติการถล่มด้วยเครื่องบินรบของรัสเซียนั้น  ยุโรปเผชิญปัญหาผู้ลี้ภัยที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 จนยากเกินเยียวยา  เพราะฉะนั้น ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียเหนือดินแดนซีเรียคือการแก้ปัญหาผู้ลี้ภัยที่ต้นตอโดยตรง ถือเป็นการช่วยแก้ปัญหาให้ยุโรปไปในตัว และอาจจะช่วยทำให้ภาพพจน์ของรัสเซียในสายตาของยุโรปหลายๆประเทศดีขึ้น โดยเฉพาะประเทศในฟากยุโรปตะวันออกที่ต่อต้านผู้อพยพมากๆ และรัสเซียวาดหวังว่า จะช่วยผ่อนปรนความขัดแย้งระหว่างยุโรปในการแก้ปัญหายูเครนได้บ้าง

กลุ่มก่อการร้ายพากันหนาวสั่นเมื่อหมีขาวขยับ
ปูตินจะเป็นฮีโร่?

สี่ รัสเซียต้องการสร้างภาพพจน์ใหม่และพิสูจน์ว่าสามารถเล่นบทบาท “ตำรวจโลก” ได้ดีกว่าสหรัฐฯ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ถึงแม้โลกจะตระหนักถึงภัยคุกคามและความโหดร้ายของกลุ่ม IS แต่สหรัฐฯและพันธมิตรก็ไม่สามารถกำจัดกลุ่มก่อการร้ายนี้ได้เลย เพราะฉะนั้น หากปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียประสบความสำเร็จถึงขั้นถอนรากถอนโคนกลุ่ม IS ได้ ก็จะหนุนเสริมทำให้ภาพพจน์ของรัสเซียดีกว่าสหรัฐฯอย่างแน่นอน และทำให้รัสเซียกลายเป็นที่พึ่งของประเทศเล็กประเทศน้อยในอนาคตในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่สหรัฐฯไม่สามารถทำได้
             ทั้งนี้ สิ่งที่รัสเซียย้ำมาตลอดก็คือ ปฏิบัติการทหารในซีเรียครั้งนี้มีความชอบธรรมถูกต้องที่สุด (แตกต่างจากสหรัฐฯและพันธมิตรที่ละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศในการบุกถล่มกลุ่มก่อการร้ายในดินแดนซีเรีย โดยรัฐบาลซีเรียไม่ได้ร้องขอหรืออนุญาต) และมีเป้าหมายเพื่อกำจัดผู้ก่อการร้ายทุกๆกลุ่มให้แก่ชาวโลก

ศักยภาพทางทหารของรัสเซีย : ถึงเวลาต้องปัดสนิม

ห้า ในทางปฏิบัติแล้ว ฐานะความเป็นมหาอำนาจโลกจะไร้ความหมายหากไม่สามารถแสดงศักยภาพหรือแสนยานุภาพให้เป็นที่ประจักษ์แจ้งได้ ดังนั้น วิกฤติซีเรียจึงเปิดโอกาสให้รัสเซียก้าวสู่เป้าหมายนี้หลังจากที่ห่างเหินภูมิภาคนี้ไปนานหลายทศวรรษ โดยเฉพาะการแสดงบทบาทในฐานะประเทศมหาอำนาจที่สามารถกำหนดเกมความเคลื่อนไหวต่างๆในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็นภูมิภาคที่มีปัญหาความขัดแย้งมากที่สุด เป็นการเรียกคืนชื่อเสียงบารมีเดิมๆของอดีตสหภาพโซเวียตที่ประธานาธิบดีปูตินยังคงหวนหาอยู่ไม่เสื่อมคลาย


Welcome to the new world : ยินดีต้อนรับสู่บทบาทใหม่
นอกจากจะเปิดโอกาสให้รัสเซียได้แสดงแสนยานุภาพของความเป็นประเทศมหาอำนาจอย่างแท้จริงและป้องกันไม่ให้ ผีอัฟกานิสถานมาหลอกหลอนตอกย้ำความล้มเหลวในอดีตแล้ว  บางที วิกฤติซีเรียในครั้งนี้อาจจะเป็นจุดพลิกผันที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองระหว่างประเทศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลาง

( อ่านต่อตอนที่ 1)
'
'

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มอเตอร์ หรือ สติกเกอร์

เมื่อตอนที่ Real Madrid ทีมดังในสเปนตัดสินใจขาย Claude Makelele ให้กับทีม Chelsea แล้วซื้อ David Beckham มาแทนที่ในช่วงกลางปี 2003 ปรา...