เมื่อสหรัฐฯถึงคราวต้องเลือก

.

                วิกฤติซีเรียที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่กลางปี 2011 ได้พัฒนามาจนถึงจุดที่มหาอำนาจอย่างสหรัฐฯตกอยู่ในภาวะต้องเลือกอย่างไม่น่าเชื่อ
                ด้านหนึ่ง หลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดกลางกรุงแองการ่าจนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 29 คนและส่วนใหญ่เป็นนายทหารเมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้นำตุรกีถึงกับออกควันและประกาศกดดันให้ผู้นำสหรัฐฯต้องเลือกระหว่างกลุ่มเคริ์ดซีเรียหรือตุรกี ไม่มีคำว่า "ถ้า" ไม่มีคำว่า "หรือ" และห้ามจับปลาสองมืออีกต่อไป
                ภาวะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกเช่นนี้ ต้องถือเป็นเรื่องยากมากๆสำหรับประธานาธิบีดบารัก โอบาม่าที่ต้องคำนวณชั่งน้ำหนัก เพราะตุรกีคือพันธมิตรหนึ่งเดียวของนาโตที่เชื่อมโยงกับตะวันออกกลาง และสหรัฐฯต้องพื้นพาตุรกีในหลายๆด้าน โดยเฉพาะฐานทัพอากาศซึ่งตุรกีเพิ่งอนุมัติเปิดไฟเขียวให้สหรัฐฯใช้เมื่อเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว

 

                แต่ในอีกด้านหนึ่ง ผู้นำกลุ่มเคริ์ดซีเรียซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นกองกำลังทหารที่มีศักยภาพมากที่สุดในการปราบปรามกลุ่ม IS และกำลังฮึกเหิมรุกคืบจนสามารถยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของซีเรียตามแนวพรมแดนติดกับตุรกีก็กดดันสหรัฐฯอีกทางจนปวดหัวว่า หากวอชิงตันเลือกเติร์ก ชาวเคริ์ดก็จะแปรใจไปสวามิภักดิ์กับรัสเซียแบบเต็มตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่สหรัฐฯไม่สามารถยอมรับได้เลย
                สหรัฐฯตระหนักดีว่า หากคิดจะปราบปรามกลุ่ม IS ให้สิ้นซาก ในทางปฏิบัติที่เป็นจริงที่สุดแล้ว สหรัฐฯต้องอาศัยกองกำลังชาวเคริ์ดอย่างชนิดที่ไม่สามารถหาตัวแทนได้
                ถึงเวลาแล้วที่สหรัฐฯต้องเลือก ระหว่าง เติร์ก หรือ เคิร์ด

 

.