.
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่สุดสำหรับใครสักคนหนึ่งที่เกิดมาโดยไม่มีโอกาสได้รับรู้ว่าใครคือบิดาผู้บังเกิดเกล้า ไม่เคยได้เห็นหน้าค่าตาของผู้กำเนิด หรือไม่เคยได้รับความรักความอบ อุ่นใดๆจากพ่อของตัวเอง
เช่นเดียวกับชีวิตจริงของประธานาธิบดีบารัค โอบาม่าที่ขาดซึ่งความสมบูรณ์ในส่วนนี้ถึงแม้ว่าในช่วงตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยสองขวบ หนูน้อยโอบาม่าหรือชื่อเดิม "บาร์รี่"จะอยู่ภายใต้ไออุ่นของพ่อแม่เสมอเหมือนครอบครัวอื่นๆ แต่เรียกว่า โอบาม่าในวัยเบบี้นี้เดียงสาเกินไปที่จะรับรู้รับทราบและจดจำพ่อของตัวเองได้
 |
เด็กชายบาร์รี่กับคุณแม่และและ
คุณตาเคียงข้างด้วยน้องสาวต่างบิดา |
 |
ภาพของพ่อลูก "บารัค โอบาม่า" ที่ผู้นำ
สหรัฐฯคนปัจจุบันพกติดตัวตลอดมา |
เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจว่า ทำไมบารัค โอบาม่าผู้พ่อเลือกที่จะเดินทางไปศึกษาต่อที่ฮาร์วาร์ดโดยทิ้งให้แม่ลูกอยู่ตามลำพังในฮาวาย และเดินหันหลังไม่เคยกลับมาเยี่ยมมาพบหาภรรยาและลูกน้อยของตัวเองอีกเลย
ทำไม? การศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ดีสุดในโลกจึงต้องแลกด้วยต้นทุนที่แพงมากที่สุดขนาดนี้
จนกระทั่งเมื่อบาร์รี่หรือเด็กชายโอบาม่าอายุได้ 10 ขวบ พ่อลูกคู่นี้จึงได้มีโอกาสพบเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต เป็นช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดือนจริงๆที่บารัค โอบาม่าได้อยู่ใกล้ชิดไออุ่นกับพ่อ
เป็นช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดือนที่พ่อลูกคู่นี้ได้ใช้ชีวิตเป็นพ่อลูกจริงๆ
นี่อาจจะเป็นปมด้อยหนึ่งในใจของผู้นำสหรัฐฯคนนี้
และเมื่อโอบาม่าเติบโตสร้างครอบครัวของตัวเอง เขามักจะพูดอยู่เสมอว่า คนเราทุกคนมักจะมีทางเลือกเพียงสองทางเมื่อถึงวัยอันควร คือต้องพยายามที่จะชดเชยความผิดพลาดของพ่อหรือไม่เช่นนั้นก็ต้องพยามก้าวตามรอยตามความคาดหวังของพ่อ
แน่นอนที่สุด ประธานาธิบดีผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์เลือกหนทางแรก และด้วยปมด้อยที่ตราตรึงอยู่เช่นนี้ จึงเป็นแรงผลักดันทำให้เขาทำหน้าที่เป็นสามีและพ่อที่ดีที่สุด
ในทุกอิริยาบท ในทุกๆความเคลื่อนไหวที่เป็นไปได้ โอบาม่าไม่เคยเหนียมอายที่จะแสดงออกซึ่งความรักต่อลูกสาวทั้งสองคนและคู่ชีวิตอย่างอบอุ่นจริงๆ
|
ความเป็นพ่อที่อบอุ่นก่อนเข้าสู่ทำเนียบขาว |
 |
"พ่อใฝ่ฝันจะเป็นประธานาธิบดีของประเทศนี้
ก็เพื่ออนาคตของลูกและเด็กๆอเมริกันทุกคน" |
 |
ชัยชนะนี้เพื่อลูกและลูกมีส่วนสำคัญในชัยชนะนี้ |
 |
ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกับชีวิตใหม่ในทำเนียบขาว |
 |
ในวันที่ย้ายเข้าสู่ทำเนียบขาวในเดือนมกราคม ปี 2009
มาเรีย(10 ขวบ)และซาช่า (7ขวบ) กลายเป็น First Daughters
หรือลูกสาวผู้นำที่เยาว์วัยที่สุดนับตั้งแต่ยุคจอห์น เอฟ เคนเนดี้
 |
แม้จะเป็นผู้นำที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก แต่
บารัค โอบาม่าก็เป็นพ่อที่น่ารักมากยิ่งกว่าเดิม |
|
 |
และทำหน้าที่พ่อที่ดีในการรับส่งลูกไปโรงเรียนด้วยตนเอง |
 |
ครอบครัวของผู้นำที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยรอยยิ้อยู่เสมอ |
 |
ในวันแรกๆของชีวิตใหม่ของการเข้าเรียนในกรุงวอชิงตัน
ความอบอุ่นที่พ่อและแม่ "โอบาม่า" มอบให้แก่ลูกสาวทั้งสอง
|
 |
กำลังต่อรองเงินค่าขนมขอเพิ่มจากอาทิตย์ละหนึ่งเหรียญ |
 |
เจ้าโบหมาน้อยที่พ่อบารัคมอบให้เป็นของขวัญ
แก่ลูกสาวในวันย้ายเข้าสู่ทำเนียบขาว |
 |
ทุกไออุ่นของพ่อบารัคมีให้กับลูกเสมอในช่วงฮอลิเดย์ |
 |
พร้อมหน้าพร้อมตาไม่ว่าจะเดินทางไปไหน |
 |
ไม่ว่าจะไปตากอากาศที่ใด |
 |
แม้ภาระหน้าที่ในตำแหน่งผู้นำประเทศ
จะรัดตัวมากแค่ไหนก็ตาม |
 |
พ่อคนนี้จัดสรรเวลาให้ลูกเสมอ
|
 |
อ้อมกอดนี้ให้ไออุ่นกับลูกที่สุด |
 |
บารัค โอบาม่าในบทบาท "พ่อ" ธรรมดาคนหนึ่ง
โดยไม่มีตำแหน่งประธานาธิบดีมาก้าวก่ายรบกวน |
 |
ความอบอุ่นของพ่อมีไม่สิ้นสุด
ความรักของพ่อที่มีให้ไม่จำกัด |
 |
ความรักอันอบอุ่นที่พ่อมีให้กับลูก |
 |
จูบนี้แทนความรัก |
 |
จูบนี้สำหรับมาเรียในวันย่างเข้า 12 ขวบ |
 |
ลูกคือกำลังใจของพ่อคนนี้ |
 |
เพื่อนของลูกก็คือลูกของพ่อเช่นกัน |
 |
ความสุขประสาพ่อลูกในฮาวาย |
 |
ทุกสัมผัสคือไออุ่นที่พ่อมีให้แก่ลูก |
 |
ในวันที่พาลูกสาวไปซื้อไอติมของโปรดราคาห้า
เหรียญแล้วทิปเงินทอนสิบห้าเหรียญให้แก่คนขาย
|
 |
และกินน้ำแข็งใสเหมือนลูกโดยไม่แยแส
กับตำแหน่งผู้นำประเทศ |
 |
แม้กระทั่งไปซื้อลูกกวาดของหวานขบเคี้ยวให้ลูก |
 |
หรือช๊อบปิ้งอย่างมีความสุขธรรมดาที่สุด
 |
เพราะนี่คือสิ่งที่พ่อบารัคไม่เคยได้รับในช่วงวัยเยาว์ |

การให้ความรักกับลูกคือสิ่งที่พ่อคนนี้ทำได้ดีที่สุด |
 |
ร่วมฉลองวันชาติและวันเกิดให้มาเรีย
ลูกสาวคนโตที่เกิดในวันที่ 4 กรกฏาคม |
 |
หรือไปชมกีฬาพร้อมหน้าพร้อมตา |
 |
ลูกคือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับชีวิตของพ่อคนนี้ |
 |
พ่อบารัคกำลังสนุกสนานกับซาช่าลูกสาว
คนเล็กอย่างสุดเหวี่ยง |
 |
และปั่นจักรยานอย่างสบายอารมณ์กับมาเรีย |
 |
ความอบอุ่นในอดีต |
 |
ความใกล้ชิดและอบอุ่นที่มากขึ้นในปัจจุบัน
|
ในจดหมายเปิดผนึกที่โอบาม่าเขียนถึงมาเรียและซาช่าก่อนหน้าวันปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อสองปีก่อน ผู้นำแฟมีลี่คนนี้บอกว่า ในชีวิตของเขานั้นแทบจะมีความหมายน้อยมาก ถ้าหากไม่สามารถทำให้ลูกสาวทั้งสองคนมีความสุขอย่างเต็มที่ได้
"พ่อภูมิใจอย่างมากในตัวลูกทั้งสอง และพ่อรักลูกมากยิ่งกว่าที่ลูกจะรับรู้หรือรู้สึกได้"
นี่คือบารัค โอบาม่า ผู้นำแฟมีลี่แมนที่แท้จริง
นี่คือพ่อตัวอย่างที่ชาวอเมริกันภูมิใจ
.
ถ้าจะให้ย้อนนึกถึงผู้นำที่ค่อนข้างเด่นชัดในด้านนี้ นอกเหนือจากคุณทักษิณ ก็คงจะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี คุณอานันท์ ปันยารชุน ที่ค่อนข้างจะเด่นในเรื่องของครอบครัว นะคะ ส่วนใหญ่ผู้นำไทยก็คงจะมีแต่แถลงแต่ในเรื่อง สังคม การเมืองซะมากกว่า แต่อดีตนายกท่านนี้ เคยกล่าวถ้อยแถลงเรื่อง การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช
ตอบลบhttp://www.breastfeedingthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=315841&Ntype=6
ท่านทำหน้าที่ทูตยูนิเซฟตั้งแต่พ.ศ. 2539 หลายๆอย่าทำให้ท่านดูเป็นคนที่อบอุ่นมากๆเลยคะ