พลังแห่งความล้มเหลว : คนไม่(เคย)แพ้ยิ่งใหญ่ไม่ได้

.

ทั่วทุกมุมของโลกใบนี้ อาจกล่าวได้ว่าแทบจะไม่มีใครที่จะไม่เคยลิ้มรสความล้มเหลว แต่ก็มีบ้างจำนวนหนึ่งที่อาศัยความล้มเหลวนั้นเป็นพลังก้าวนำไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้ บทเรียนสำคัญของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ทั้งในโลกการเมือง การทหาร ธุรกิจและกีฬา ล้วนยืนยันได้ถึงหลักข้อเท็จจริง

 โมริเฮอิ อุเอชิบะ ปรมาจารย์ผู้กำเนิดไอคิโกเคยสอนสั่งบรรดาลูกศิษย์ที่ร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้แบบญี่ปุ่นว่าความพ่ายแพ้คือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ประหนึ่งว่า คนไม่แพ้ยิ่งใหญ่ไม่ได้  
  

  โลกของคนกีฬามีตัวอย่างมีข้อคิดให้กับผู้คนได้เป็นอย่างดี 

        
  ในรอบสองทศวรรษที่ผ่านมา ชื่อของ รอย โจนส์ จูเนียร์ และ ฟรอยด์ เมย์เวทเธอร์ คือสองนักชกที่ได้รับการยกย่องอย่างไม่มีข้อกังขาว่าเก่งที่สุดแบบเทียบปอนด์ต่อปอนด์ในประวัติศาสตร์มวยโลกในรอบ25 ปี  นอกเหนือจากฝีมือแม่ไม้มวยขั้นอัจฉริยะที่เกิดมาเพื่อเป็นเทพบนสังเวียนแล้ว ว่ากันว่า ความผิดหวังคือแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้สุดยอดมวยทั้งสองมุ่งมั่นจนไร้เทียมทาน 

 ในช่วงวัยหนุ่มที่เริ่มต้นสังเวียนผ้าใบมวยโลก ทั้งโจนส์และเมย์เมเวทเธอร์ต่างก็มีความฝันและความมุ่งหวังเหมือนชายหนุ่มอเมริกันคนอื่นๆว่า เหรียญทองโอลิมปิคคือบันไดก้าวสำคัญที่จะเบิกทางฝันไปสู่ความยิ่งใหญ่ในสังเวียนอาชีพการชกมวย และนักมวยโครตฝีมือทั้งสองทั้งมุ่งหวังและถูกคาดหวังเป็นเต็งจ๋าว่าจะประสบชัยในก้าวแรกนี้
.

 ด้วยความเป็นนักชกอเมริกันสายเลือดแอฟริกัน ทั้งโจนส์และเมย์เมเวทเธอร์อาจต้องยอมรับตามสุภาษิตแอฟริกันว่า คลื่นสงบนักเดินเรือสร้างตำนานได้ยาก   ดูเหมือนชีวิตบนสังเวียนมวยสมัครเล่นจึงต้องขรุขระตามความประสงค์ของพระเจ้าไปด้วย  
.

  ในการแข่งขันโอลิมปิคปี 1988 ที่กรุงโซล  ครั้งนั้น รอย โจนส์พ่ายแพ้ให้แก่นักมวยเกาหลีใต้แบบอื้อฉาวที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์จนได้เพียงแค่เหรียญเงินอย่างสุดชอกช้ำ ทั้งๆที่ยำใหญ่นักมวยกลิ่นกิมจิข้างเดียวแต่กรรมการสามคนดันตาบอดหมัดมองไม่เห็นหมัดที่นักมวยอเมริกันคนนี้ต่อยเข้าเป้าเลย
.

  ด้วยความผิดหวังอย่างสุดๆเสมือนหนึ่งถูกพระเจ้ากลั่นแกล้ง แต่ life must go on  รอย โจนส์จำเป็นต้องก้าวเดินต่อไป หลังจากเทิร์นโปรก้าวขึ้นมาสู่วงการมวงอาชีพในปีต่อมา  วงการโลกผืนผ้าใบก็ได้มีโอกาสเห็นนักมวยที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดบนพื้นปฐพีในยุคนั้น ได้รับยกย่องให้เป็นสุดยอดนักมวยในทศวรรษ 1990s ด้วยผลงานเป็นที่ประจักษ์แจ้งแบบไม่ค้านสายตาใคร 
.
 แผลแห่งความผิดหวังกลับกลายเป็นพลังทำให้รอย โจนท์มุ่งมั่นเป็นเท่าตัวจนทำสถิติสร้างประวัติศาสตร์อย่างน่าเกรงขามและยากที่จะหาใครเทียบเคียงได้ เป็นแชมป์โลก 4 รุ่น เป็นนักมวยคนแรกในรอบศตรวรรษที่ก้าวจากการเป็นแชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวท (75 กิโลกรัม) ที่หาใครเทียบชั้นไม่ได้จนก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์โลกรุ่นเฮฟวิเวท(เป็นยักษ์ที่ตัวเล็กที่สุดคนหนึ่ง)  เพราะเก่งเกินจนไม่มีใครสู้ได้จริงๆ   
.

  หากได้เหรียญทองโอลิมปิคในปี 1986 บางที  รอย โจนส์อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรอย่างสุดๆจนกลายเป็นตำนานที่เราเห็นก็เป็นได้  ใครจะไปรู้

   หากความผิดหวังมีส่วนสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับรอย โจนส์แล้ว ตำนานความเกรียงไกรของฟรอยด์ เมย์เวทเธอร์ สุดยอดนักมวยสากลในยุคปัจจุบันก็ไม่แตกต่างกันมากนัก  
.

  ว่ากันว่า ความพ่ายแพ้แบบชนะเห็นๆต่อนักมวยบัลแกเรียในรอบรองชนะเลิศกีฬาโอลิมปิคปี 1996 ที่สหรัฐฯเป็นเจ้าภาพเอง จนทำได้เพียงแค่เหรียญทองแดง  ถือเป็นช่วงเวลาที่ฟรอยด์ เมย์เวทเธอร์ผิดหวังมากที่สุดในชีวิต (แต่ก็ถือเป็นความโชคดีมากๆของสมรักษ์ คำสิงห์ที่ไม่ต้องเจอนักมวยอเมริกันคนนี้ในรอบชิงชนะเลิศ จนได้เหรียญทองประวัติศาสตร์เป็นเกียรติประวัติต่อวงการมวยของประเทศไทย)
.

   แน่นอนที่สุดว่า ฟรอยด์ เมย์เวทเธอร์ไม่สามารถทิ้งความผิดหวังไว้กับอดีตได้ แต่พกติดตัวเพื่อสร้างพลังให้กับตัวเองได้ก้าวไปข้างหน้าให้ไกลสุดกู่  เมื่อเทิร์นโปร์เป็นมวยอาชีพเต็มตัวก็ถือเป็นฝันร้ายของนักมวยทั่วโลกในรุ่นเดียวกัน  เป็น Invincible ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ให้แก่นักมวยหน้าไหนเลยตลอดการชกมวยอาชีพ    ฟรอยด์ เมย์เวทเธอร์สร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์โลก 5 รุ่น ครองเข็มขัดแชมป์ 12 เส้น จนได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดนักมวยแห่งทศวรรษที่เก่งที่สุดบนโลกกลมๆใบนี้
.

 แชมป์โลกฟุตบอล 3 สมัยอย่างอิตาลี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เชื่อได้ว่าสร้างความสำเร็จจากความล้มเหลว   พูดกันว่า ความผิดหวังในฟุตบอลโลกปี 2002 มีส่วนสำคัญที่ทำให้อิตาลี่คว้าแชมป์โลกในอีก 4 ปีต่อมา

ในปี 2002  อิตาลี่เป็นยักษ์ใหญ่เป็นตัวเต็งที่เพิ่งสร้างผลงานผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2000 นักกีฬาทั่วโลกล้วนตระหนักและยอมรับว่าการแพ้การชนะเป็นส่วนหนึ่งของเกมการแข่งขัน การพ่ายแพ้ต่อทีมชาติเกาหลีเหนือในปี 1966 จนอยากจะแปลงเป็นขอมดำดิน  ถึงแม้จะอัปยศสักแค่ไหนแต่ก็เป็นการปราชัยที่ค่อนข้างขาวสะอาด โชคร้ายพ่ายแพ้บนสนามหญ้าเขียวจริงๆ  แต่การพ่ายแพ้ต่อทีมชาติเกาหลีใต้ในปี 2002 เป็นคนละเรื่องราวและยากจะเป็นสิ่งที่ยอมรับได้เลย ต่อให้พระสันตปาปามาปลอบใจก็ตาม

.
  ในปี 2002 ทีมชาติอิลาลี่รู้สึกว่าโลกไม่ยุติธรรม แพ้ให้แก่เกาหลีใต้เจ้าภาพแบบถูกยัดเยียด  ประตูชัยที่สมควรได้ก็ถูกตัดสินว่าเป็นลูกล้ำหน้า นักเตะที่เก่งที่สุดในทีมถูกใบแดง ซ้ำร้ายต้องเสียจุดโทษจนนำไปสู่ความพ่ายแพ้ในที่สุด ตกรอบก่อนรองชนะเลิศไปแบบข่มขื่นที่สุด 

.
 แต่ในอีก 4 ปีต่อมาที่นักเตะอัสซูรี่ยังมีความทรงจำไม่ลืมเลือน และใช้ความผิดหวังจากครั้งก่อนมาเป็นพลังมาแรงจูงใจเสริมพิเศษ จนสามารถคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ที่เยอรมนีเป็นเจ้าภาพได้อย่างน่าประทับใจ

.
  เหมือนดั่งที่วีรบุรุษแห่งสงครามโลกอย่างวินสตัน เชอร์ชิลเคยกล่าวไว้  ความพ่ายแพ้หรือความผิดพลาดไม่ได้หมายถึงหายนะหรือการจบสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง  แต่ในความเป็นจริงที่ปรากฏในหลายๆกรณี ความพ่ายแพ้แบบน่าผิดหวังที่สุดกลับมีพลังมหาศาลที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในที่สุดได้ 

.
  ไม่ใช่เพราะยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้หรือขาดน้ำใจนักกีฬา แต่เป็นเพราะวิถีแห่งความพ่ายแพ้นั้นยากจะกลืนได้คล่องคอสำหรับคนมีหัวใจนักกีฬาจริงๆ  แต่เมื่อความผิดหวังเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ความผิดพลาดและพ่ายแพ้เป็นส่วนหนึ่งของเกมกีฬา  ก็ควรต้องนำความผิดหวังนั้นมาเป็นรากฐานสร้างความแข็งแกร่งของสภาพจิตใจ

  ทีมวอลเลย์บอลหญิงของไทยอาจจะผิดหวังอย่างสุดๆกับเล่ห์กลของกรรมการและเจ้าภาพญี่ปุ่นจนทำให้อดเข้ารอบผ่านเข้าไปแข่งรอบสุดท้ายในกีฬาโอลิมปิคที่บราซิลในอีกสองสามเดือนข้างหน้าที่เป็นความฝันของนักกีฬาทุกๆคน      
.
  แต่ถ้าเราเชื่อในทฤษฏี "คนไม่แพ้ยิ่งใหญ่ไม่ได้"  บางที ความพ่ายแพ้ต่อนักตบญี่ปุ่นแบบน่ากังขาในคราวนั้น ถึงแม้จะขมขื่นจนเสียน้ำตามากสักเพียงใด แต่อาจจะเป็นแหล่งกำเนิดผลิตพลังใจพลังความมุ่งมั่นให้นักกีฬาวอลเลย์บอลสาวไทยให้ก้าวไปไกลกว่าเพียงแค่เข้าร่วมโอลิมปิค(โดยไม่มีความหวังเหรียญใดๆ)  ก็ได้

.
   ความสำเร็จในการผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศรายการม๊องโทรซ์ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ในวันนี้ อาจจะเป็นบรรไดขั้นแรกของความยิ่งใหญ่ในอนาคตก็เป็นได้

 
.
.