2 เมษายน 2559

พระราชนิพนธ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เรื่อง "คนแขนหัก"

 
.
ข้าพเจ้าค่อนข้างจะภูมิใจว่าไม่เคยแขนหักขาหักเหมือนคนอื่นทั้ง ๆ ที่หกล้มบ่อย เคล็ดลับอยู่ที่ว่าเราต้องรู้จักล้ม กลิ้งให้ถูกทาง เก็บแขนเก็บขา และศีรษะให้ดี คราวนี้ข้าพเจ้าอยู่ในสถานการณ์ที่แก้ไขไม่ได้ เพราะยืนอยู่ในที่แคบ กลิ้งไม่ได้

วันนั้น เป็นวันอังคารที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๔๗ ข้าพเจ้าเตรียมตัวจะไปงานพระราชทานเพลิงศพ ท่านเจ้าคุณวัดนิเวศธรรมประวัติที่บางปะอิน แต่งตัวเสร็จแล้วแทนที่จะเดินลงบันไดไปขึ้นรถ กลับเดินย้อนไปหยิบขนมที่ในห้องอาหาร เสี้ยววินาทีต่อมาก็ลื่นล้มโครมไปกองที่พื้น เจ็บแขนแถว ๆ ข้อมือจนเห็นดาวขึ้นเป็นแถว ๆ

หมอชูศักดิ์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญกระดูกเดินอยู่แถวนั้นพอดีจึงถูกเรียกมา เขาก็คงจะรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร จึงว่าควรไปฉายเอกซเรย์ แต่แรกข้าพเจ้าคิดว่าไปบางปะอินเสียก่อนค่อยกลับมาจัดการ เดชะบุญที่มันปวดมากก็เลยไปโดยดี ที่แพทย์หลวงมีเจ้าหน้าที่ทำให้ประเดี๋ยวเดียวก็ทราบว่าหักแน่ ๆ จะใส่เฝือกถาวรเลยก็ไม่ได้ เพราะแขนยังบวมมากจึงใส่แบบชั่วคราวก่อน เสร็จเรื่องแขนก็ไปบางปะอิน เสร็จเรื่องเผาศพยังกลับไม่ได้ เพราะฝนตกหนักไม่อยากจะเดินลื่นหกล้มหักไปอีกข้าง


ระหว่างอยู่ในรถ อ้วนส่ง SMS มาจากอังกฤษเพื่อรายงานว่าไปดูพิพิธภัณฑ์อะไรบ้าง จึงตอบว่าแขนหัก ด้วยความก้าวหน้าทางการสื่อสาร คนอยู่อังกฤษจึงรู้ข่าวนี้ก่อนคนอยู่เมืองไทยด้วยประการฉะนี้

กลับมาที่อาคารชัยพัฒนา หมอเอกชัยมารออยู่แล้ว หลังจากหาข้อมูลจากหมอชูศักดิ์เต็มที่

เสร็จเรื่องเผาศพแล้ว ก็ต้องยุ่งเรื่องตัวเอง ปัญหาค่อนข้างมาก

ปัญหาแรกคือ หมอแนะนำว่าต้องยกแขนไว้สูง ๆ จะได้ไม่บวม แต่มันจะเมื่อย เขามีอุปกรณ์คล้องแขน เป็นผ้ามุ้งขลิบสีต่างๆ ที่ฮิตมาก ๆ มี สีขาว สีฟ้า อันที่จริงสีแสดก็มี

 



ปัญหาที่สอง การมีมือเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นมือที่ไม่ถนัด ใคร ๆ จะมาช่วย แต่ข้าพเจ้าคิดว่าเราจะต้องรับสภาพอยู่แบบนี้อีกนาน อย่างน้อย ๖ สัปดาห์ที่หมอเขาบอกอย่างให้กำลังใจ ข้าพเจ้าเคยทำงานเกี่ยวกับคนพิการมานานแล้ว เท่าที่สังเกตคือ เขาจะต้องใช้ส่วนของร่างกายที่เหลือช่วยทำการงานต่าง ๆ ให้ดีที่สุดก่อนจึงใช้เครื่องช่วยนอกกาย หลังจากนั้นจึงขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น การส่งเสริมเรื่องการใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระ (
independent living) จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย การอาบน้ำหรือล้างมือต้องระวังไม่ให้น้ำเข้าเฝือก ข้อนี้อึ่งสั่งเสียทางไกลมาจากอังกฤษ (ทัวร์เดียวกับอ้วน) ให้เอาถุงพลาสติกครอบมือแล้วรัดยางหนังสติ๊กหรือเชือกฟางผูกของผูกไว้ ประพจน์เห็นเข้า สวมวิญญาณนักออกแบบให้ เอาผ้าพลาสติกตัดเป็นถุงมือมีเชือกรูด

ปัญหาเรื่องงาน ตอนเช้าเจออธิการบดีของสถาบันราชมงคล บอกเขาว่าอีกสองสามวันเจอกันงานปริญญา ถึงตอนนี้ต้องบอกอารยาให้แจ้งพวกปริญญาทั้งหลายว่าขอเลื่อนไปก่อน

งานหลายอย่างทำได้ แต่ต้องทำมือซ้าย แต่ไหนแต่ไรมาเคยรับการอบรม ซึ่งอาจจะเป็นการอบรมโบราณว่า ทำอะไรมือซ้ายไม่สุภาพ ถึงตอนนี้ทำได้มือซ้ายอย่างเดียว ถ้าใครถือเรื่องนี้ก็ต้องรอไปก่อน ถ้าไม่ถือ ก็เชิญมาได้ การเชคแฮนด์กับฝรั่งก็เป็นไปตามกฎนี้หรือว่าไม่เชคเลย

ส่วนสำคัญของการปฏิบัติหรือดำเนินชีวิตอย่างหนึ่งคือ การเขียน แบ่งออกเป็นการพิมพ์คอมพิวเตอร์และการเขียนด้วยดินสอหรือปากกา ครั้งแรกข้าพเจ้าคิดว่าพิมพ์น่าจะง่ายกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งพิมพ์ภาษาอังกฤษจะง่ายกว่าพิมพ์ภาษาไทย ถ้าจะต้องเขียนอะไร ๆ เป็นภาษาอังกฤษไปหมด กว่าจะถอดเฝือกภาษาอังกฤษน่าจะเก่ง

เรื่องการเซ็นเช็คหรือเอกสารทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญ ข้าพเจ้าทำงานมูลนิธิและกิจการหลายอย่าง ถ้าข้าพเจ้าไม่เซ็นให้ ใคร ๆ จะแย่ไปแยะ แต่แรกข้าพเจ้าคิดว่าจะใช้แปะโป้งและให้หมอเอกชัยเซ็นรับรองว่าป่วยจริง ใคร ๆ พากันห้ามเพราะการแปะโป้งนั้นเขาใช้เฉพาะในสถานธนานุบาล (เป็นชื่อเพราะ ๆ ของโรงรับจำนำ) เขาไม่ใช้กันในกิจการธนาคาร

ประการต่อมาคือ การเล่นดนตรี ที่ว่าจะตีระนาดประกอบโขนเป็นอันว่าลืมไปเสียเถอะ ก่อนหน้านี้มีเพื่อนคนหนึ่งเป็นนักตีระนาดเหมือนกัน หกล้มมือซ้ายหัก ข้าพเจ้าคิดจะนัดแกมาเล่นคู่กันแบบ
duet ข้าพเจ้าเล่นมือซ้าย ดาวเล่นมือขวา แต่ครูดูจะไม่เห็นดีด้วย ซอก็สีไม่ได้ ผลสุดท้ายร้องเพลงได้อย่างเดียว

 
 

กลับวังสระปทุมวิ่งออกกำลัง ๕ รอบแล้วเริ่มคิดเรื่องมือต่อ เอาเข้าจริงแล้วเขียนมือซ้ายง่ายกว่าและเร็วกว่าพิมพ์มือเดียว ฉะนั้นสิ่งที่เคยเขียนบันทึกก็พยายามทำอย่างเดิม ข้าพเจ้าเป็นคนที่ถนัดมือขวา ฉะนั้นจึงเขียนมือซ้ายได้ช้ามาก แต่ถ้าทำไม่ได้ แล้วไม่ทำ ก็จะไม่ได้อยู่อย่างนั้นเอง จึงตัดสินใจทำงานเท่าเดิม ซึ่งต้องใช้เวลามาก ผลก็คือใช้เวลาสามวันสามคืนกว่าจะเขียนได้คล่อง ต้องอดตาหลับขับตานอนจนเกือบจะป่วยด้วยโรคอื่นเพราะพักผ่อนไม่พอ นอกจากเขียนบันทึกแล้ว ข้าพเจ้าใช้สมุดแบบฝึกหัดของเด็กอนุบาลหัดเขียนหนังสือ ฝึกกล้ามเนื้อมือ ใคร ๆ ชมว่าข้าพเจ้าเขียนมือซ้ายได้ดีจนเขาคิดว่า ข้าพเจ้าถนัดซ้ายแต่โดนครูบังคับให้เขียนข้างขวา ที่จริงก็ไม่ใช่ เป็นความชำนาญที่เกิดจากการฝึกหัด

ข้าพเจ้าแก้ปัญหาเรื่องธนาคารได้โดยให้นายแบงก์มาเอาตัวอย่างลายเซ็นมือซ้าย เขานั่งดูข้าพเจ้าเซ็นพักใหญ่ บอกว่าใช้ได้

สำหรับคอมพิวเตอร์ก็ต้องใช้มือเดียว เปลี่ยนเอา
mouse มาเสียบข้างซ้าย ถึงจะช้า แต่ก็พิมพ์เองได้ เช่น พิมพ์ e-mail พิมพ์สุนทรพจน์ที่พูดที่เกาหลี ที่อิตาลี ที่กระทรวงการต่างประเทศ (ไทย) พิมพ์เอกสารการสอน ประมาณ ๑๐ หน้า เป็นภาษาไทย

เมื่อคนรู้เรื่องปัญหาแขนหัก ก็มาเยี่ยม เซ็นชื่อ เอาดอกไม้มา หลายคนส่งอาหารและขนมมามากมาย ที่จริงก็เป็นธรรมเนียมเหมือนกัน คนแขนหักทำกับข้าวเองไม่ได้ต้องมีคนทำให้ มีเด็กเรียนเมืองนอกส่ง
e-mail มาว่า แม่เขาส่งข่าวไปว่าข้าพเจ้าข้อเท้าหัก ข้าพเจ้าตอบไปว่าไม่ใช่ข้อเท้าแต่เป็นข้อมือ เขาว่าค่อยยังชั่ว น่าคิดเหมือนกันว่าเสียมือหรือเสียเท้าแย่กว่ากัน

มีคนเขียนจดหมายมาอวยพรมาก มีทั้งพระทั้งฆราวาส มีฝรั่งที่รู้จักกัน เขียนมาถามว่าตกลงเจ็บจริงหรือเปล่า เห็นในทีวีหน้าตาร่าเริงแจ่มใสดี ที่จริงข้าพเจ้าเจ็บมาก แต่ก็สนุกนิด ๆ เพราะเป็นประสบการณ์ใหม่ มีเรื่องคุยกับใครต่อใคร เพิ่งรู้ว่าในโลกนี้มีคนเคยหกล้มแขนหักอยู่มากมาย มีท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่งประสบอุบัติเหตุทำให้เสียแขนไป แต่ท่านก็ไม่ท้อถอย ได้ทำงานเป็นประโยชน์ต่อวงการศึกษาของไทยเป็นอย่างมาก ท่านเขียนการ์ดมาให้กำลังใจ

เมื่อเฝือกชั่วคราวหลวมก็ต้องเข้าเฝือกใหม่ คราวนี้เป็นเฝือกถาวร สมัยใหม่นี้ไม่ต้องใช้ปูนปลาสเตอร์ เป็นเฝือกที่ดูเหมือนกับเป็นผ้ากอซหุ้มพลาสติกมีน้ำหนักเบา มีลวดลายให้เลือกหลายแบบ หมอเอามาให้เลือก ๔ ลาย มีลายไดโนเสาร์หลากสี ลายหมีถือลูกโป่ง ลายคริสต์มาส และลายลูกฟุตบอล ข้าพเจ้าเลือกลายไดโนเสาร์ ถ้าจะเปลี่ยนอีกครั้งก็จะเอาลายหมี มีคนถามว่าแบบนี้ไปงานศพ หรือแต่งเครื่องแบบทหารทำอย่างไร ข้าพเจ้าเห็นว่า ไม่น่าจะเป็นอะไรเพราะเฝือกไม่ใช่เสื้อผ้า เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์

ที่จริงหมอบอกว่าข้าพเจ้าควรจะเจ็บมากกว่านี้ เพราะมีการดึงกระดูกให้เข้าที่ แต่ข้าพเจ้ามัวแต่งงที่มีคนมาตั้งกองเชียร์มากมายนอกเหนือจากหมอที่ปฏิบัติการ เช่น หมอธำรงรัตน์ หมอชูศักดิ์ หมอเอกชัย

ใส่เฝือกนี้แล้วสบาย ไม่คัน ขยับได้พอสมควร บางทีไปไหน ไม่ใช้ผ้าห้อยแขน ใครๆ เตือนว่าควรใช้ เวลาวิ่งข้าพเจ้าชอบชูแขนขึ้นสูงสักครู่แล้วเอามือลงจะรู้สึกว่าเลือดสูบฉีดดี
.
            (มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ ๑๘ - ๒๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๘ ปีที่ ๒๕ ฉบับที่ ๑๒๗๙)

.              ขอทรงพระเจริญ

.
.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มอเตอร์ หรือ สติกเกอร์

เมื่อตอนที่ Real Madrid ทีมดังในสเปนตัดสินใจขาย Claude Makelele ให้กับทีม Chelsea แล้วซื้อ David Beckham มาแทนที่ในช่วงกลางปี 2003 ปรา...