ภายหลังจากที่ได้รับทราบว่านักบินจอร์แดนถูกเผาทั้งเป็นอย่างโหดเหี้ยมที่สุด
โลกได้เห็น "แรงแค้น" ของกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2
แห่งจอร์แดนที่ตัดสินใจตอบโต้กลุ่ม ISIS อย่างสาสมที่สุด จนกระทั่งกระสุนในคลังอาวุธเหลือนัดสุดท้าย
และจะไม่มีวันยกโทษให้อภัยกับกลุ่ม ISIS แม้ในยามที่อารมณ์ดีที่สุด
.
น่าเสียดายว่า
การถล่มโจมตีทางอากาศอย่างหนักของกองทัพอากาศจอร์แดนที่ร่วมมือกับกลุ่มประเทศอื่นๆไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่วาดหวังไว้
และไม่มีใครรู้ว่า แรงแค้นของชาวจอร์แดนทั้งประเทศจะหดหายไปมากน้อยแค่ไหน
หรือยกเลิกความตั้งใจเดิมๆไปหมดแล้ว
.
เช่นเดียวกับที่เราได้เห็นปฏิกิริยาของประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลองด์ภายหลังจากที่กลุ่ม ISIS ก่อการร้ายภายในกรุงปารีสจนทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุดไม่ต่ำกว่า
129 คน
.
ผู้นำฝรั่งเศสประกาศชัดเจนแบบไม่ต้องมีการตีความใดๆว่า
แค้นนี้ต้องชำระเอาคืน
กลุ่ม ISIS
ในทันทีและให้สาสมที่สุด พร้อมทั้งส่งเครื่องบินรบไปถล่มโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายนี้ถึงซีเรีย
.
แค้นนี้ จะไม่มีวันเห็นใจ
เข้าใจหรือถอดใจอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงคำว่า "ให้อภัย"
.
ไม่รู้ว่า ถึงที่สุดแล้ว
ฝรั่งเศสจะคงยืนหยัดในแรงแค้นนี้ได้นานสักแค่ไหน และไม่รู้ว่าจะแก้แค้นถล่มจนกลุ่ม
ISIS หายไปจากโลกใบนี้ได้หรือไม่
.
แต่แรงแค้นของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์
ปูตินคือสิ่งที่โลกต้องเฝ้าจับตามองมากที่สุด หลังจากออกมายืนยันล่าสุดว่า
เครื่องบินพลเรือนถูกบอมบ์ระเบิดกลางอากาศจนร่วงตกเหนือคาบสมุทรไซนาย
ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่าสองร้อยคน
.
ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังหรือผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้
จะต้องถูกตามล่าถูกทำลายให้สิ้นซากไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดหรือประเทศใด
.
นี่คือคำประกาศของผู้นำรัสเซียแบบไม่มีล้อเล่น
.
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น