11 กันยายน 2558

วิกฤติ 9/11 : ปฏิกริยาของผู้นำ (ตอนที่ 2)

'


.
สำหรับสหรัฐฯแล้ว เหตุการณ์ "9/11" ถือว่าร้ายแรงที่สุดในรอบ 70 ปีนับตั้งแต่เหตุการณ์ที่กองทัพญี่ปุ่นโจมตีอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ในปี 1941
.
ณ ช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์วินาศกรรม โดยกลุ่มก่อการร้ายได้ปฏิบัติการจี้เครื่องบินแล้วบังคับบินพุ่งชนตึกเวิลด์ เทรดเซ็นเตอร์ ที่อยู่ใจกลางนครนิวยอร์ก จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 ราย กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ช๊อคโลกและช๊อคผู้นำสหรัฐฯอย่างไม่คาดคิดว่าจะเกิด ขึ้น
.
เช้าของวันที่ 9 กันยายน 2001 ประธานาธิบดีจอร์จ บุชมีกำหนดการที่จะไปพบปะและพูดคุยเกี่ยวกับนโยบายการศึกษาให้เด็กๆระดับ ประถมที่โรงเรียน Emma E. Booker Elementary School
.
เมื่อเดินทางไปถึงโรงเรียนก่อนกำหนดการเวลา 9.00 น. ผู้นำสหรัฐฯก็ได้รับแจ้งว่า เครื่องบินลำหนึ่งพุ่งชนตึกเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ โดยไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัด ณ วินาทีนั้น ผู้นำสหรัฐฯไม่ได้คิดว่านี่คือการก่อการร้าย อาจจะเป็นเพียงอุบัติเหตุก็เป็นได้ จึงไม่ได้มีปฏิกิริยาที่ตกใจหรือหวั่นวิตก แตกตื่นจนถึงขั้นรีบเดินทางกลับทำเนียบขาวทันที
.
แต่หลังจากเข้าห้องเรียนได้พบปะกับเด็กๆเพียงแค่ไม่ถึง 5 นาที หัวหน้าฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่ติดตามประธานาธิบดีก็รีบแจ้งให้ผู้นำทราบถึง เหตุการณ์เครื่องบินลำที่ 2 บินชนตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์
.

แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ปฏิกิริยาของประธานาธิบดีบุช เพราะทันทีที่ได้รับแจ้งถึงข่าวร้ายแรงโดยวิธีการกระซิบ พร้อมตกย้ำว่า "America is under attack" สีหน้าของผู้นำสหรัฐฯกลับดูแปลกชอบกลมากๆ เป็นสีหน้าที่เรียบเฉยไร้ความรู้สึกใดๆ ราวกับว่าสิ่งที่ได้รับแจ้งนั้นไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรงอย่างสุดๆ ไม่ได้คิดว่าสหรัฐฯกำลังถูกโจมตี
.

การที่เครื่องบินถึงสองลำบินชนตึกสูงใจกลางมหานครนิวยอร์คในเวลาห่างกัน เพียงแค่ 17 นาที ไม่สามารถตีความว่าเป็นอุบัติเหตุได้อีกต่อไป แต่ทั้งๆที่สถานการณ์ถึงขั้นวิกฤติรุนแรงเช่นนี้ ประธานาธิบดีก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ ณ ห้องเรียนต่อไป โดยเฉพาะการอ่านหนังสือให้เด็กๆฟัง โดยให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการให้เด็กๆแตกตื่นขวัญเสียกับข่าวร้าย
.
เรียกว่านิ่งมากๆ ในสถานการณ์วิกฤติเยี่ยงนี้
.
หลังจากอีกประมาณ 10 นาที ประธานาธิบดีก็ได้ขอตัวกับเด็กๆอย่างสุภาพเพื่อออกไปปฏิบัติภารกิจสำคัญ ยิ่งยวดในฐานะผู้นำของประเทศ ด้วยการใช้เครื่องมือสื่อสารสั่งการต่างๆ เตรียมรับกับเหตุการณ์ร้ายของประเทศ พร้อมทั้งแถลงการณ์เป็นครั้งแรกโดยมีทั้งเด็กๆนักเรียนและคุณครูร่วมรับฟัง ด้วย
.
รวมเบ็ดเสร็จแล้ว ประธานาธิบีดใช้เวลาอยู่ที่โรงเรียนหนึ่งชั่วโมงเต็ม หรือประมาณ 55 นาทีหลังเหตุการณ์เครื่องบินลำที่ 2 ก่อเหตุบินชนตึก จึงได้เดินทางด้วย Air Force One โดยยังไม่มีกำหนดเส้นทางจุดปลายทางที่แน่นอนในทันที เพื่อความปลอดภัย
.
ในขณะเดียวกัน ในช่วงเวลารองประธานาธิบดีดิ๊ก เชนนีย์ซึ่งทำหน้าที่อยู่ที่ทำเนียบขาว กลับมีสีหน้าปริวิตก จริงจังและโกรธแค้นผสมรวมกัน เป็นสิ่งหน้าที่สะท้อนเหตุการณ์ยิ่งกว่าสีหน้าของประธานธิบดีเสียอีก
.
หรือว่า นี่คือคุณสมบัติหนึ่งที่สำคัญของผู้นำ ที่จะต้องนิ่งไม่แตกตื่นแม้ในยามวิกฤติร้ายแรงมากๆ
.
.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มอเตอร์ หรือ สติกเกอร์

เมื่อตอนที่ Real Madrid ทีมดังในสเปนตัดสินใจขาย Claude Makelele ให้กับทีม Chelsea แล้วซื้อ David Beckham มาแทนที่ในช่วงกลางปี 2003 ปรา...