พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศถูกกล่าวหาอย่างรุนแรงว่า เป็นศูนย์กลางและต้นตอแห่งปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกในสังคมไทยและปัญหาความขัดแย้งกับกัมพูชาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้
ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งสองปัญหาที่เรียกว่าหนักหนารุนแรงที่สุดสำหรับประเทศไทยในขณะนี้ก็ว่าได้นั้น เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับหมายเลข "4.6" อย่างบังเอิญ (หรือจงใจ?) อย่างไม่น่าเชื่อ
ปัญหาแรกคือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ซับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรบริเวณปราสาทพระวิหาร ซึ่งทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาต่างก็อ้างสิทธิความชอบธรรมเหนือพื้นที่บริเวณนี้
มีการกล่าวหาว่า ปัญหาพื้นที่ซับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นผลพวงมาจากการที่รัฐบาลไทยโดยนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีต่างประเทศในขณะนั้น ลงนามในแถลงการณ์ไทย-กัมพูชาเมื่อกลางปี 2551 สนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว และยอมรับแผนที่ 1:200,000 หรือแผนที่ฝรั่งเสสโดยนิตินัย
มีการกล่าวหาว่า การลงนามและท่าทีที่สนับสนุนดังกล่าว คือ "การยกอธิปไตยใส่พาน" ให้กัมพูชา และทำให้ประเทศไทยสุ่มเสี่ยงกับการสูญเสียดินแดงบริเวณนี้ในท้ายที่สุดได้
ความขัดแย้งเกี่ยวกับพื้นที่ซับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรดังกล่าว ร้อนแรงจนถึงขั้นนำไปสู่การเผชิญหน้าและการปะทะกันทางทหารระหว่างสองประเทศหลายต่อหลายครั้งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และล่าสุด กลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะประกาศถอนตัวจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกและคณะกรรมการมรดกโลก หรืออีกนัยหนึ่งคือการประกาศถอนตัวจากการเป็นสมาชิกขององค์การยูเนสโกนั่นเอง
ประเด็นเรื่องพื้นที่ซับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองไทยอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อกล่าวหาว่า คุณทักษิณคือผู้อยู่เบื้องหลังแห่งปัญหาความยุ่งยากทั้งปวง และมีท่าทีสนับสนุนผลประโยชน์ของกัมพูชามากกว่าผลประโยชน์ของแผ่นดินแม่
หนาม "4.6 ตารางกิโลเมตร" ที่กลายเป็นอาวุธ ทางการเมืองหลอกหลอนคุณทักษิณ |
กล่าวหาว่า รัฐบาลสมัคร สุนทรเวชว่าเป็นรัฐบาลนอมินีหรือรัฐบาลตัวแทนของคุณทักษิณ จึงดำเนินการใดๆเพื่อประโยชน์ของคุณทักษิณเป็นสำคัญ การลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาโดยคุณนพดล(ซึ่งเป็นคนสนิทของคุณทักษิณ) มีเงื่อนงำมีผลประโยชย์แอบแฝง โดยเฉพาะสัมปทานน้ำมันและก๊าซที่รัฐบาลฮุนเซนของกัมพูชาให้เป็นการแลกเปลี่ยนกับท่าทีที่สนับสนุนกัมพูชาในการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
ความพยายามที่จะสื่อให้สาธารณชนไทยเห็นว่า จุดยืนของคุณทักษิณก็คือ "ไทยรุกรานประเทศเพื่อนบ้าน" และ "พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของกัมพูชามาตั้งนานแล้ว" เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า คุณทักษิณมีพฤติกรรมที่ไม่รักชาติรักบ้านเกิดเมืองไทย และถือหางเข้าข้างศัตรูของประเทศ
วาทกรรม “4.6 ตารางกิโลเมตร" จึงเป็นเหมือนหอกที่คอยทิ่มแทงคุณทักษิณ ตราบเท่าที่ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาจะยังคงสถานะเดิมเช่นนี้ต่อไป
ในขณะเดียวกัน ประเด็นข้อถกเถียงที่ร้อนแรงที่สุดอีกประเด็นหนึ่งในการเมืองไทยช่วงก่อนการเลือกตั้งวันที่ 3 กรกฏาคมนี้ก็คือ การนิรโทษกรรมและการคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท
มีการกล่าวหาว่า นโยบาย เป้าหมายและความจำเป็นอันดับแรกๆสุดของพรรคเพื่อไทยหากชนะการเลือกตั้งและได้จัดตั้งรัฐบาลก็คือการนิรโทษกรรมให้แก่คุณทักษิณซึ่งถูกศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญาในคดีที่ดินรัชดาฯ
"ค้อน" อันทรงอนุภาพ |
หนาม "4.6 หมืนล้านบาท" ที่ทิ่มแทงคุณทักษิณ |
ภายใต้การนิรโทษกรรมดังกล่าวนั้น ว่ากันว่า ความหวังความปรารถนาสูงสุดของคุณทักษิณก็คือ ต้องการเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทคืน โดยอ้างเหตผลว่า เป็นทรัพย์สินส่วนตัวที่ถูกรัฐปล้นหรือขโมยไป ทั้งนี้ ทรัพย์สินดังกล่าวถูกศาลแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ให้ยึดและตกเป็นของแผ่นดิน ในข้อหาใช้อำนาจหน้าที่ระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มบริษัทของตัวเอง
นับเป็นความบังเอิญอย่างยิ่งที่ตัวเลข "4.6" เข้ามาเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับชีวิตของคุณทักษิณและการเมืองไทยอย่างเด่นชัด จนอาจจะตีความมองได้ว่าเป็นเจตนา(?)
ภายใต้ทฤษฏีสมคบคิด (ที่ฝ่ายคุณทักษิณเชื่อว่า "เจตนา" มีน้ำหนักมากกว่า "ความบังเอิญ"?) นั้น ประเด็น "4.6 หมื่นล้านบาท" ซึ่งเกิดขึ้น 19 เดือนภายหลังประเด็น “4.6 ตารางกิโลเมตร" อาจจะตีความได้ว่า "4.6 หมื่นล้านบาท" คือค่าความเสียหายที่เกิดจากหรือการชดเชยสำหรับความสูญเสีย “4.6 ตารางกิโลเมตร" ที่ต้องมีคนรับผิดชอบในอัตรา หนึ่งหมื่นล้านบาทสำหรับพื้นที่หนึ่งตารางกิโลเมตร
ณ วันนี้ วาทกรรม "4.6 หมื่นล้านบาท" กลายเป็นประเด็นที่ร้อนแรงและอ่อนไหวที่สุดของการต่อสู้และหาเสียงทางการเมืองควบคู่กับวาทกรรม “4.6 ตารางกิโลเมตร" ที่มีการเชื่อมโยงกับคุณทักษิณอย่างชัดเจนที่สุด
กลายเป็นอาวุธทางการเมืองที่ทิ่มแทงและหลอกหลอนคุณทักษิณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีการต่อยอดเพื่อหวังผลทางการเมืองอย่างสูงสุด และกำหนดเป็นทางเลือกเป็นขาวเป็นดำที่ชัดเจนที่สุดให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
นั่นคือ สร้างวาทกรรมเพื่อหวังผลว่า ในท้ายที่สุดแล้ว ประชาชนจะเลือกพรรคการเมืองที่ยกดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตรให้กัมพูชา(?) หรือ พรรคการเมืองที่ปกป้องอธิปไตยดินแดนส่วนนี้(?)
และคนไทยจะเลือกพรรคการเมืองที่มีนโยบายคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทให้แก่คุณทักษิณ(?) หรือ พรรคการเมืองที่ไม่มีนโยบายล้างความผิดเพื่อคืนเงินส่วนนี้ให้แก่อดีตนายกรัฐมนตรีคนนี้(?)
เรียกได้ว่า เป็นสองประเด็นที่สำคัญที่สุดที่ไม่เพียงแต่ตัดสินอนาคตการเมืองไทยหลังวันที่ 3 ก.ค.เท่านั้น แต่จะเป็นปัจจัยชี้ขาดชีวิตและอนาคตของคุณทักษิณด้วย
..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น