แบบแรกเรียกว่า หล่อหลักลึก หมายถึง ผู้นำที่เกิดมาด้วยทุนเต็มทางสรีระและกายภาพ คือเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาดี บุคลิกสง่างามต้องตา ไม่จำเป็นเสมอไปที่บุคคลนั้นๆ จะมีหน้าตาหล่อเหลา (handsome)เป็นพระเอกหรือสวยงามเหมือนเช่นนางงาม แต่บ่อยครั้งที่เราให้น้ำหนักกับคำว่าดูดี (good look) มากกว่า ซึ่งนั่นหมายถึงบุคลิกท่าทางที่จะส่งผลทำให้ดูดีได้มากขึ้น
แต่ในขณะเดียวกัน ผู้นำคนนั้นๆ จะต้องพิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์ว่า เป็นคนยึดมั่นในหลักการอุมการณ์แห่งความถูกต้อง ความดีงามและยึดถือเอาประโยชน์ของมหาชนส่วนรวมยิ่งกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว เรียกว่ายอมเสียชีพแต่ไม่ยอมเสียสัตย์ ยอมเสียตำแหน่งแต่ไม่ยอมเสียจุดยืน
ผู้นำที่จัดอยู่ในข่ายของผู้นำประเภท หล่อหลักลึก นี้อาจรวมถึงจอร์จ วอชิงตันอดีตประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ ที่ยึดมั่นในเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่สุด จอห์น เอฟ เคนเนดี้ผู้มุ่งมั่นที่จะเห็นสิทธิความเท่าเทียมกันระหว่างคนผิวขาวและคนผิดดำในสหรัฐฯ จนสุดท้ายเชื่อว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่การลอบสังหาร โรนัลด์ เรแกนผู้ยึดถือหลักแห่งคุณค่าความเป็นมนุษย์ คุณค่าแห่งความเป็นอเมริกัน จนได้รับคำยกย่องว่าเป็นประธานาธิบดีที่ดีที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
จอร์จ วอชิงตัน บิดาแห่งชาติสหรัฐฯ ผู้ยึดถือความซื่อสัตย์เป็นที่ตั้ง |
บิดาผู้สร้างชาติผู้สง่างาม |
จอห์น เอฟ เคนเนดี้ได้ชื่อว่าเป็นประธานาธิบดี ที่ดูดีมีเสน่ห์มากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกัน |
ความหล่อเหลาถึงขั้นเป็นพระเอกหนังมาก่อน ทำให้โรนัลด์
เรแกนเป็นได้ชื่อว่าเป็นประธานาธิบดีที่รูปงามที่สุดคนหนึ่ง
แบบที่สองเรียกว่า หล่อหลักลอย หมายถึง ผู้นำแบบประเภทเกิดมารูปงามเป็นทุนทรัพย์ และหลายๆคนก็อาศัยทุนด้านคุณลักษณ์นี้เป็นใบเบิกนำไปสู่อำนาจหรือตำแหน่งแห่งหน แต่ผู้นำจำพวกนี้กลับไม่มีคุณลักษณ์ภายในที่โดดเด่นส่องแสงประกาย ที่สามารถสร้างชื่อสร้างประวัติศาสตร์ให้อนุชนรุ่นหลังได้กล่าวถึงคุณงามความดีได้
ผู้นำแบบนี้มีอาจจะมีความใคร่อยากจะเป็นอยากจะมีตำแหน่งหรือไม่มีก็ได้ แต่เมื่อได้เป็นได้สวมตำแหน่งแล้วกลับสร้างความผิดหวังให้กับผู้คน เพราะบริหารองค์กรหรือประเทศแบบมือสมัครเล่น เป็นคนที่โลเลขาดหลักการหลักยึดทั้งหลักคุณธรรมและหลักบริหาร การแก้ปัญหาใดๆจึงเป็นเรื่องที่คนอื่นๆคาดการณ์ได้ยาก เพราะมักจะยึดอารมณ์ความรู้สึกหรือสถานการณ์เป็นหลักมากกว่า เรียกว่ายอมหักยอมงอได้ทุกเมื่อ
นายกรัฐมนตรีเบอร์ลุสโคนี่แห่งอิตาลีได้ชื่อว่า เป็นผู้นำรูปงามที่สุดคนหนึ่ง แต่ไม่เคยว่างเว้นเรื่องอื้อฉาว |
แบบที่สามเรียกว่า เหล่หลักลึก หมายถึงคนที่ไม่ได้เกิดมาด้วยรูปงาม บางคนอาจถึงขั้นทรลักษณ์หรืออัปลักษณ์คือไม่มีรูปลักษณ์ใบหน้าหล่อเหลาสวยงามดูดีต้องตาต้องใจเป็นเสน่ห์เมื่อแรกเห็น แต่สิ่งที่ชดเชยและมีความสำคัญมากกว่าคือความเป็นผู้นำที่เข้มแข้ง มีความอดทนที่จะยืนหยัดในความถูกต้องเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด และให้ความสำคัญต่อผลประโยชน์ส่วนรวมเหนือผลประโยชน์ส่วนตนหรือผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม ถึงแม้ว่าจะจัดเป็นผู้นำแบบเจ้าเงาะ แต่ตัวอย่างของผู้นำประเภทนี้มักจะมีบุคลิกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นเหมือนการชดเชยปมด้อยด้วยปมเด่นที่มีคุณมหาศาล เป็นเสน่ห์ที่ทำให้บุคคลนั้นๆ กลายเป็นผู้นำคนสำคัญๆของโลก
อับราฮัม ลินคอนล์ผู้ยืนหยัดในการยกเลิกระบบทาษ |
มาร์ติน ลูเธอร์ คิง ผู้ต่อสู้ในหลักแห่งความเท่าเทียม ระหว่างอเมริกันผิวขาวและผิวดำจนถูกลอบสังหาร |
มหาตะมะ คานธีผู้ยืนหยัดในหลักอสิงหาจนตัวตาย |
เนลสัน เมนเดล่าผู้ต่อสู้เพื่อความเท่า เทียมกันระหว่างสีผิวในแอฟริกาใต้ |
แบบที่สี่เรียกว่า เหล่หลักลอย หมายถึงผู้นำที่นอกจากจะไม่ได้มีรูปงามแล้ว ยังมีคุณลักษณะแบบเช้าชามเย็นชาม ไร้ซึ่งหลักการใดๆ ในการบริหารองค์กรหรือปกครองประเทศ และมักจะขาดซึ่งคุณสมบัติที่ดีของผู้นำข้ออื่นๆ ด้วย เป็นผู้นำที่ไม่สามารถพึ่งพาหรือคาดหวังอะไรได้มากนัก การพัฒนาเดินหน้า ความเจริญรุ่งเรือง หรือความเคร่งครัดของหลักนิติรัฐเป็นสิ่งที่ยากจะเกิดขึ้นภายใต้ผู้นำแบบนี้ และหากอยู่ในตำแหน่งแห่งหนอำนาจนานเกินไป ก็มีความเป็นไปได้ที่จะนำความเสียหายหรือเดือดร้อนมาสู่องค์กรหรือประเทศนั้นๆ
อีดี้ อามินอดีตผู้นำอูกันดาสุดยอด แถวหน้าแห่งความเหี้ยมโหด |
รูปวาดที่บ่งบอกถึงความ "เหล๋" ของอีดี้ อามิน |
แน่นอนที่สุดว่า อับดุลเล วาเดแห่งเซเนกัลไม่ใช่ผู้นำรูปงาม? |
แล้วอด๊อฟ ฮิตเลอร์จะจัดอยู่ในผู้นำแบบไหน? |
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น