เชื่อมั่นว่าทำได้

.


หากพิเคราะห์อย่างใกล้ชิดแล้ว จะเห็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของผึ้ง เป็นผึ้งตัวเล็กๆ
ที่มนุษย์เราเป็นหนี้บุญคุณอย่างมหาศาล  เพราะการช่วยผสมเกสรทำให้ดอกไม้เบ่งบาน
เพิ่มความงามให้กับโลกใบนี้

หากพิจารณาสรีระของตัวผึ้งแล้ว เราอาจจะเชื่อโดยปริยายว่า ผึ้งไม่น่าจะบินได้ เพราะผึ้ง
มีลำตัวที่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับปีก ร่างกายของมันหนักเกินไปสำหรับปีกที่เล็กบางเช่นนี้

แต่เพราะมันไม่(เคย)คิดเช่นนั้น หรือมันไม่รู้เช่นนี้ มันจึง(สามารถ)บินได้






                 

                ใครจะเชื่อว่า ปีกเล็กๆบางๆของผึ้งน้อย จะสามารถยกลำตัวที่

             ทั้งใหญ่และหนักกว่าหลายร้อยเท่าให้ลอยได้อย่างน่ามหัศจรรย์

 






















เป็นหลักที่สอดคล้องกับแนวคิดของแซม วอลตันผู้ก่อตั้งเชนยักษ์ใหญ่ค้าปลีกอย่าง
Wal-Mart ที่ชอบและสนุกสนานกับการทำสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้(ในสายตาของ
คนอื่น) ให้เป็นไปได้

เพียงความเชื่อความมั่นใจเช่นนี้ ก็ทำให้คนเราสามารถทำหลายสิ่งหลายอย่างให้เป็นไปได้

ปัจจัยนี้อาจจะเป็นคำตอบหนึ่งที่อธิบายว่า ทำไมแอนดี้ ร๊อดดิกอดีตนักเทนนิสหมายเลข
หนึ่งของโลกชาวสหรัฐฯ ไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าที่ควร ทั้งๆที่เป็นนักเทนนิสที่ได้
รับการยอมรับว่ามีฝีมือมีพรสวรรค์ไม่น้อยหน้าใคร โดยเฉพาะพลังลูกเสริฟที่รุนแรงเหมือน
พายุเทอร์นาโด

ใครบางคนอาจมองว่า ร๊อดดิกเกิดมาผิดยุคผิดเวลา เหมือนอยากจะโทษพระเจ้าว่า ฟ้า
ส่งร๊อดดิกมาเกิด แล้วทำไมจึงส่งโรเจอร์ เฟดเดอเรอร์มาเกิดด้วย

ว่ากันว่า เหตุผลหลักที่ทำให้ร๊อดดิกคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้เพียงตำแหน่งเดียวคือ
แชมป์ยูเอสโอเพ่นในปี 2003 ก็คือความกลัวที่อยู่ฝังรากลึกในใจ

ร๊อดดิกกลัวเฟดเดอเรอร์อย่างฝังอกฝังใจ กลัวตั้งแต่ยังไม่ลงสนาม ไม่เคยมีความมั่นใจ
ว่าตัวเองจะสามารถเอาชนะสุดยอดนักเทนนิสของโลกชาวสวิสคนนี้ได้




                            

                              เพราะกลัวฝังหัว ร๊อดดิกจึงแทบจะไม่
                                   สามารถเอาชนะเฟดเดอเรอร์ได้

 
















ร๊อดดิกจึงแทบจะเอาชนะเฟดเดอเรอร์ไม่ได้เลย กลายเป็นเงาทะมึนที่ครอบงำความคิด
ของร๊อดดิกอยู่เกือบตลอดเวลา จึงไม่สงสัยเลยว่าทำไมร๊อดดิกสามารถเอาชนะเฟดเดอเรอร์
ได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น ในการพบกันทั้งหมด 22 ครั้ง  โดยเฉพาะความพ่ายแพ้ในการเล่น
นัดชิงชนะเลิศเทนนิสวิมเบิลดันสามครั้งและยูเอสโอเพ่นอีกหนึ่งครั้ง

แต่ในทางตรงกันข้าม กรณีของทีมท๊อตแน่ม ฮอทสเปอร์สกลับสร้างความประหลาดใจ
ให้กับวงการลูกหนังยุโรปไม่น้อยเอาเลย เพราะความเชื่อมั่นว่าเป็นไปได้

สโมสรแห่งลอนดอนทีมนี้สร้างผลงานที่น่าทึ่ง ด้วยการเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่จากอิตาลี่อย่าง
อินเตอร์ มิลานและเอซี มิลาน

นักเตะและผู้จัดการทีมสเปอร์สไม่เคยแสดงอาการหวั่นวิตกเมื่อต้องแข่งกับทีมอินเตอร์ มิลาน
แชมป์เก่าฟุตบอลยูเอฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก  และไม่เคยคิดว่า การเอาชนะอินเตอร์เป็นสิ่งที่เป็น
ไปไม่ได้

เพราะเชื่อมั่นว่า เมื่อสามารถเอาชนะอินเตอร์ มิลานได้ ก็ไม่มีปัญหาที่จะต่อกรเอาชนะยักษ์
ใหญ่แชมป์เก่ารายการนี้หลายสมัยอย่างเอซี มิลานโดยไม่ต้องเกรงใจซิลวิโอ เบอร์ลุสโคนี่
ผู้เป็นทั้งเจ้าของสโมสรและนายกรัฐมนตรีอิตาลี






                              

                                          ควมมั่นใจของนักเตะสเปอร์สที่พุ่งเหมือนเทอร์โมมิเตอร์

                                     ในช่วงฤดูร้อน จนเชื่อมั่นว่า อะไรๆก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

  





















เพียงแค่มีโอกาสผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลแชมป์เปี้ยนลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ของสโมสร สเปอร์สก็สามารถผ่านทะลุเข้าสู่รอบแปดทีมสุดท้ายแล้ว

เป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งจริงๆ

นับอย่างนี้ไป สำหรับนักเตะทีมตราไก่แห่งลอนดอนนี้ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น





.