.
ข้าพเจ้าค่อนข้างจะภูมิใจว่าไม่เคยแขนหักขาหักเหมือนคนอื่นทั้ง
ๆ ที่หกล้มบ่อย เคล็ดลับอยู่ที่ว่าเราต้องรู้จักล้ม กลิ้งให้ถูกทาง เก็บแขนเก็บขา
และศีรษะให้ดี คราวนี้ข้าพเจ้าอยู่ในสถานการณ์ที่แก้ไขไม่ได้ เพราะยืนอยู่ในที่แคบ
กลิ้งไม่ได้
วันนั้น เป็นวันอังคารที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๔๗
ข้าพเจ้าเตรียมตัวจะไปงานพระราชทานเพลิงศพ ท่านเจ้าคุณวัดนิเวศธรรมประวัติที่บางปะอิน
แต่งตัวเสร็จแล้วแทนที่จะเดินลงบันไดไปขึ้นรถ กลับเดินย้อนไปหยิบขนมที่ในห้องอาหาร
เสี้ยววินาทีต่อมาก็ลื่นล้มโครมไปกองที่พื้น เจ็บแขนแถว ๆ
ข้อมือจนเห็นดาวขึ้นเป็นแถว ๆ
หมอชูศักดิ์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญกระดูกเดินอยู่แถวนั้นพอดีจึงถูกเรียกมา
เขาก็คงจะรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร จึงว่าควรไปฉายเอกซเรย์
แต่แรกข้าพเจ้าคิดว่าไปบางปะอินเสียก่อนค่อยกลับมาจัดการ
เดชะบุญที่มันปวดมากก็เลยไปโดยดี
ที่แพทย์หลวงมีเจ้าหน้าที่ทำให้ประเดี๋ยวเดียวก็ทราบว่าหักแน่ ๆ
จะใส่เฝือกถาวรเลยก็ไม่ได้ เพราะแขนยังบวมมากจึงใส่แบบชั่วคราวก่อน
เสร็จเรื่องแขนก็ไปบางปะอิน เสร็จเรื่องเผาศพยังกลับไม่ได้
เพราะฝนตกหนักไม่อยากจะเดินลื่นหกล้มหักไปอีกข้าง
ระหว่างอยู่ในรถ อ้วนส่ง SMS มาจากอังกฤษเพื่อรายงานว่าไปดูพิพิธภัณฑ์อะไรบ้าง จึงตอบว่าแขนหัก ด้วยความก้าวหน้าทางการสื่อสาร คนอยู่อังกฤษจึงรู้ข่าวนี้ก่อนคนอยู่เมืองไทยด้วยประการฉะนี้
กลับมาที่อาคารชัยพัฒนา หมอเอกชัยมารออยู่แล้ว
หลังจากหาข้อมูลจากหมอชูศักดิ์เต็มที่
เสร็จเรื่องเผาศพแล้ว ก็ต้องยุ่งเรื่องตัวเอง ปัญหาค่อนข้างมาก