3 ธันวาคม 2557

สอนลูกแบบ พ่ออินทรีย์

.


ในหัวอกของความเป็นพ่อ เหอ หลี่เซิงย่อมมีเหตุผลมากเกินพอที่จะตอบโลกว่า ทำไมจึงต้องฝึกลูกชายใน “ทางหนักฝึกให้ลูกรู้จักความลำบากยากเข็ญตั้งแต่วัยต้นๆของชีวิต มากเสียจนคนอื่นๆทนไม่ได้หรือรับไม่ได้

เพราะลูกชายคลอดก่อนกำหนด ไม่แข็งแรงและมีโอกาสที่จะมีชีวิตรอดได้น้อยหรือยากที่จะมีชีวิตได้ปกติเหมือนเด็กคนอื่นๆ เหอ หลี่เซิงจึงไม่จำเป็นต้องค้นหาเหตุผลหรือแรงจูงใจใดๆอีกแล้ว นอกเหนือจากสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ จะทำอย่างไรให้เหอ ยี่เต๋อ หรือตั๋วตั๋วมีชีวิตรอดให้ได้และต้องแกร่งกว่าเด็กคนอื่นๆ 


สอนลูกให้โบยบินอย่างพญาอินทรีย์


ในความเป็นพ่อ....ไม่มีพ่อคนไหนอยากจะอยู่วันสุดท้ายของลูก และพ่อทุกคนก็ปรารถนาที่จะให้ ชีวิตของลูกยืนยาวอย่างมั่นคงที่สุด เหอ หลี่เซิงจึงตัดสินใจเลือกแนวทางของตัวเองโดยไม่แคร์สายตาหรือคำวิพากษ์ของคนอื่นๆ เพื่อให้ลูกมีชีวิตรอดและเอาตัวรอดในชีวิตได้ I do it my way
 
ในวัยต้นๆเพียงแค่สองขวบ ตั๋วตั๋วต้องเรียนรู้และฝ่าฟันประสบการณ์มหาโหดอย่างเกินวัย ต้องปีนผาหน้าไม้และวิ่งจ๊อกกิ้งให้ได้วันละ 7 กิโลทุกๆวัน รวมทั้งเรียนกังฟู คิ๊กบ๊อกซิ่ง สเก๊ตบอร์ดและปั่นจักรยาน สารพัดแห่งความมหาโหดสำหรับวัยเด็ก
 
หนาวเหน็บก็ต้องทน เพื่อจะได้แข็งแกร่งตั้งแต่เยาว์วัย

เมื่อเข้าสู่วัย 4 ขวบ ตั๋วตั๋วต้องผ่านด่านทดสอบจิตใจคร้ังสำคัญในชีวิตที่น้อยคนนักจะสามารถเอาชนะได้ หนูน้อยจำใจต้องอยู่ในสภาพไร้เสื้อไร้ห่มท่ามกลางหิมะและความหนาวเหน็บในระดับลบ13 จนเป็นภาพสะเทือนใจ


สอนให้บินสูง
ลมแรงสอนให้ปีกแข็ง

ในวัยเพียงแค่ 6 ขวบที่ต้องรู้จักท่องโลกกว้างอย่างโดดเดี่ยวตามลำพัง

แต่หัวอกของผู้เป็นพ่อไม่หยุดเพียงแค่นั้น I do it my ways เลือกที่ผลักดันและสร้างประวัติศาสตร์ให้ลูกชายในวัย 5 ขวบ จนกลายเป็นนักเดินเรือที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถล่องเรือบนลำแข้งของตัวเองอย่างโดดเดี่ยว และเป็นนักบินที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถขับเครื่องบินได้ด้วยตัวเองเป็นระยะทางกว่า 50 กิโล


เกมชีวิตสำหรับเด็กน้อย ที่ต้องเดินฝ่าทะเลทรายให้ถึงเป้าหมาย

ในปีต่อมา เมื่อตั๋วตั๋วเข้าสู่วัย 6 ขวบ การเดินเท้าในทะเลทรายเป็นระยะทางกว่า 80 กิโลกลายเป็นความท้าทายใหม่ เหอ หลี่เซิงสอนให้ลูกเรียนรู้และผจญภัยกับสารพัดความยากลำบากต่างๆนานาตลอดระยะเวลา 11 วันในทะเลทรายที่ร้อนระอุในช่วงกลางวันและหนาวเหน็บในช่วงค่ำคืน


ชีวิตในห้องเรียนก็มีอะไรให้เรียนรู้มากเหมือนนอกห้องเรียน

ถึงแม้ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจนถึงว่าเป็น "ปีศาจ" แต่เหอ หลี่เซิงก็ยังคงเดินหน้าต่อ ไม่เพียงแค่ให้ลูกมีชีวิตอยู่รอดแบบเอาชนะธรรมชาติได้เท่านั้น  แต่ต้องการให้ลูกชายที่เกิดมาร่างกายอ่อนแอสามารถเติบใหญ่ได้ด้วยหัวใจที่เข้มแข็งเกินผู้ใหญ่ค่อนโลก 

 

I do it my way ชีวิตที่เลือกแล้วสำหรับลูกชายคนนี้

เหอ หลี่เซิงเชื่อมั่นว่า ภายใต้สภาพการณ์ที่ "ลมแรง" และ "คลื่นแรง" ลูกอินทรีย์จะค่อยๆเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดและกระพือปลีกเล็กๆฝ่าข้ามอุปสรรคให้พ้นภัยให้ได้เมื่อเติบใหญ่ในวันข้างหน้า ตั๋วตั๋วอาจจะกลายเป็น "พญาอีนทรีย์" ที่สามารถเอาตัวรอดได้ในทุกๆสถานการณ์ ตามที่พ่อวาดหวังไว้?







.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มอเตอร์ หรือ สติกเกอร์

เมื่อตอนที่ Real Madrid ทีมดังในสเปนตัดสินใจขาย Claude Makelele ให้กับทีม Chelsea แล้วซื้อ David Beckham มาแทนที่ในช่วงกลางปี 2003 ปรา...