ในหัวอกของความเป็นพ่อ เหอ
หลี่เซิงย่อมมีเหตุผลมากเกินพอที่จะตอบโลกว่า ทำไมจึงต้องฝึกลูกชายใน “ทางหนัก” ฝึกให้ลูกรู้จักความลำบากยากเข็ญตั้งแต่วัยต้นๆของชีวิต
มากเสียจนคนอื่นๆทนไม่ได้หรือรับไม่ได้
เพราะลูกชายคลอดก่อนกำหนด
ไม่แข็งแรงและมีโอกาสที่จะมีชีวิตรอดได้น้อยหรือยากที่จะมีชีวิตได้ปกติเหมือนเด็กคนอื่นๆ
เหอ หลี่เซิงจึงไม่จำเป็นต้องค้นหาเหตุผลหรือแรงจูงใจใดๆอีกแล้ว
นอกเหนือจากสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ จะทำอย่างไรให้เหอ
ยี่เต๋อ หรือตั๋วตั๋วมีชีวิตรอดให้ได้และต้องแกร่งกว่าเด็กคนอื่นๆ
สอนลูกให้โบยบินอย่างพญาอินทรีย์ |
ในความเป็นพ่อ....ไม่มีพ่อคนไหนอยากจะอยู่วันสุดท้ายของลูก
และพ่อทุกคนก็ปรารถนาที่จะให้ ชีวิตของลูกยืนยาวอย่างมั่นคงที่สุด เหอ
หลี่เซิงจึงตัดสินใจเลือกแนวทางของตัวเองโดยไม่แคร์สายตาหรือคำวิพากษ์ของคนอื่นๆ
เพื่อให้ลูกมีชีวิตรอดและเอาตัวรอดในชีวิตได้ I do it my way
ในวัยต้นๆเพียงแค่สองขวบ
ตั๋วตั๋วต้องเรียนรู้และฝ่าฟันประสบการณ์มหาโหดอย่างเกินวัย ต้องปีนผาหน้าไม้และวิ่งจ๊อกกิ้งให้ได้วันละ
7 กิโลทุกๆวัน รวมทั้งเรียนกังฟู คิ๊กบ๊อกซิ่ง สเก๊ตบอร์ดและปั่นจักรยาน
สารพัดแห่งความมหาโหดสำหรับวัยเด็ก
เมื่อเข้าสู่วัย 4 ขวบ
ตั๋วตั๋วต้องผ่านด่านทดสอบจิตใจคร้ังสำคัญในชีวิตที่น้อยคนนักจะสามารถเอาชนะได้
หนูน้อยจำใจต้องอยู่ในสภาพไร้เสื้อไร้ห่มท่ามกลางหิมะและความหนาวเหน็บในระดับลบ13
จนเป็นภาพสะเทือนใจ
สอนให้บินสูง
|
ลมแรงสอนให้ปีกแข็ง |
ในวัยเพียงแค่ 6 ขวบที่ต้องรู้จักท่องโลกกว้างอย่างโดดเดี่ยวตามลำพัง
|
แต่หัวอกของผู้เป็นพ่อไม่หยุดเพียงแค่นั้น I do it my ways เลือกที่ผลักดันและสร้างประวัติศาสตร์ให้ลูกชายในวัย 5
ขวบ จนกลายเป็นนักเดินเรือที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถล่องเรือบนลำแข้งของตัวเองอย่างโดดเดี่ยว
และเป็นนักบินที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถขับเครื่องบินได้ด้วยตัวเองเป็นระยะทางกว่า
50 กิโล
เกมชีวิตสำหรับเด็กน้อย
ที่ต้องเดินฝ่าทะเลทรายให้ถึงเป้าหมาย
|
ในปีต่อมา เมื่อตั๋วตั๋วเข้าสู่วัย 6 ขวบ การเดินเท้าในทะเลทรายเป็นระยะทางกว่า 80 กิโลกลายเป็นความท้าทายใหม่
เหอ หลี่เซิงสอนให้ลูกเรียนรู้และผจญภัยกับสารพัดความยากลำบากต่างๆนานาตลอดระยะเวลา
11 วันในทะเลทรายที่ร้อนระอุในช่วงกลางวันและหนาวเหน็บในช่วงค่ำคืน
ชีวิตในห้องเรียนก็มีอะไรให้เรียนรู้มากเหมือนนอกห้องเรียน
|
ถึงแม้ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจนถึงว่าเป็น
"ปีศาจ" แต่เหอ หลี่เซิงก็ยังคงเดินหน้าต่อ ไม่เพียงแค่ให้ลูกมีชีวิตอยู่รอดแบบเอาชนะธรรมชาติได้เท่านั้น
แต่ต้องการให้ลูกชายที่เกิดมาร่างกายอ่อนแอสามารถเติบใหญ่ได้ด้วยหัวใจที่เข้มแข็งเกินผู้ใหญ่ค่อนโลก
เหอ หลี่เซิงเชื่อมั่นว่า
ภายใต้สภาพการณ์ที่ "ลมแรง" และ "คลื่นแรง"
ลูกอินทรีย์จะค่อยๆเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดและกระพือปลีกเล็กๆฝ่าข้ามอุปสรรคให้พ้นภัยให้ได้เมื่อเติบใหญ่ในวันข้างหน้า
ตั๋วตั๋วอาจจะกลายเป็น "พญาอีนทรีย์"
ที่สามารถเอาตัวรอดได้ในทุกๆสถานการณ์ ตามที่พ่อวาดหวังไว้?
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น