18 กรกฎาคม 2556

ปรากฏกการณ์ดาวโรยในโลกเทนนิส

.




การรอคอยที่ยาวนานกว่า 77 ปีของคนในเกาะอังกฤษสำหรับตำแหน่งแชมป์ชายเดี่ยววิมเบิลดันได้สิ้นสุดลงด้วยฝีมือของแอนดี้ เมอร์เรย์เลือดสก๊อต ก่อให้เกิดกระแสคลื่นชื่นมื่นเบิกบานไปทั่วทั้งเกาะ ทั้งๆที่คลื่นฮีทในระดับ 32 องศาแผ่ปกคลุม

Kissory แห่งประวัติสาตร์ที่รอนานถึง 77 ปีกว่าจะสมหวัง
 

แรงกดัน ณ เวลานี้จึงเขยิบไปอยู่ที่ออสเตรเลียซึ่งได้ชื่อว่าเป็นชาติที่คลั่งไคล้กีฬามากที่สุดประเทศหนึ่ง ประเทศที่ผลิตนักกีฬาระดับโลกหลายๆประเภท  รวมทั้งเทนนิส แต่ไม่น่าเชื่อว่า นักหวดของออสเตรเลียนจะว่างเว้นแชมป์แกรนด์สแลมมานานโข

แรงกดัน ณ เวลานี้จึงเขยิบไปอยู่ที่ออสเตรเลียซึ่งได้ชื่อว่าเป็นชาติที่คลั่งไคล้กีฬามากที่สุดประเทศหนึ่ง ประเทศที่ผลิตนักกีฬาระดับโลกหลายๆประเภทรวมทั้งกีฬาเทนนิส

แต่เป็นเรื่องเศร้าที่วันเวลาผ่านพ้นมา 37 ปีแล้ว ที่ยังไม่มีนักหวดออสซี่คนใดสามารถสร้างเกียรติยศคว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการออสเตรเลี่ยนโอเพ่นในบ้านได้เลย



ฝันของเลย์ตัน ฮิววิตต์ที่สั้นเหลือเกิน


เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ออสเตรเลียเกือบมีความหวังที่เรียกว่าเป็นความหวังที่ใกล้ความเป็นจริงที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ นั่นคือความหวังในตัวเลย์ตัน ฮิววิตต์ที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเทนนิสเบอร์หนึ่งของโลกที่อายุน้อยที่สุด ด้วยวัยเพียงแค่ 20 ปี

แต่น่าเสียดายที่เลย์ตัน ฮิววิตต์เป็นประเภทมาไวไปไว เพราะประสบความสำเร็จถึงจุดพีคได้แชมป์ทั้งยูเอสโอเพ่นและวิมเบิลดันในช่วงวัย 20-21 ปี  แต่หลังจากนั้น กลายเป็นดาวโรยไปอย่างน่าเสียดาย

คลื่นลูกเก่าก็ค่อยๆซาซัดหายไปแบบไม่มีให้เหลือความหวังใดๆ  คลื่นลูกใหม่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะเกิดที่จุดประกายความหวังใหม่สูงสุดได้ นี่คือสิ่งที่เรียกว่าวิกฤติสำหรับวงการเทนนิสบ้านออสซีก็ว่าได้ ในปัจจุบันมีนักเทนนิสของออสเตรเลียนที่ติดในกลุ่ม 100 อันดับแรกเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น

ณ เวลานี้ ออสเตรเลียทั้งฝากทั้งลุ้นความหวังไว้ที่นักเทนนิสเลือดโครเอเชียอย่างโทมิก เบอร์นาร์ด มือหนึ่งของประเทศที่รั้งอันดับ 41 ของโลก

 

โนวิค เบอร์นาร์ค ฝันหนึ่งเดียวของเกาะออสเตรเลี่ยน


ด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปีพร้อมทั้งดีกรีแชมป์เยาวชนยูเอสโอเพ่นและออสเตรเลี่ยนโอเพ่น  ชาวออสซีจึงมีเหตุผลว่า เบอร์นาร์คมีศักยภาพเป็นดาวเรืองให้คนทั้งประเทศได้ชื่นบานในเร็ววันเร็วปีนี้

วิกฤติขาดแคลนนักเทนนิส ดาวเรืองระดับโลกลุกลามไปถึงฝรัุ่งเศส สหรัฐฯและสวีเดนอย่างน่าวิตก

แน่นอนที่สุดว่า คนฝรั่งเศสก็เหมือนเช่นผู้คนในเกาะอังกฤษและเกาะออสเตรเลียนที่จะภาคภูมิใจเป็นที่สุด หากมีนักเทนนิสเจ้าถิ่นคว้าแชมป์รายการเฟรนซ์โอเพ่น เพราะนับตั้งแต่ ยันนิค โนอาห์นักหวดผิวสีทำได้เมื่อปี 1983 แล้ว ฝรั่งเศสก็ว่างเว้นที่จะเห็นความสำเร็จดังกล่าวนี้ติดต่อกันมา 30 ปีเข้าแล้ว  



ยันนิก โนอาห์ในวันที่สร้างความยิ่งใหญ่บนเคย์คอร์ท


ซองก้า : ความหวังที่ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับชาวฝรั่งเศส


ความหวังหนึ่งเดียวตอนนี้ก็คือโจ-วิลฟริด ซองก้า มืออันดับ 8 ของโลกที่เคยทำได้ดีที่สุดก็คือรองแชมป์ออสเตรเลี่ยนโอเพ่น  แต่สำหรับสำหรับเคลย์คอร์ทในปีนี้แล้ว นักหวดผิวสีเลือดคองโกคนนี้เกือบทำให้คนฝรั่งเศสมีลุ้น แต่ก็ทำได้ดีที่สุดและจบเพียงแค่รอบเซมิไฟนัลเหมือนที่เกย์ล มองฟิลส์เคยทำได้เมื่อ 5 ปีก่อน

หากจะมองโลกในแง่ดีแล้ว ถือว่าฝรั่งเศสโชคดีมีลุ้นมากกว่าทั้งออสเตรเลียหรือสหรัฐฯ ก็ว่าได้ เพราะใน 100 อันดับแรกของเอทีพีแล้ว มีนักหวดฝรั่งเศสติดอันดับโลกถึง 13 คน คนฝรั่งเศสจึงตั้งความหวังว่าหนึ่งในนั้นจะทำให้การรอคอยอันยาวนานกว่า 3 ทศวรรษสิ้นสุดลง

ในขณะที่ยักษ์ใหญ่มากๆอย่างสหรัฐฯ ที่เคยผลิตนักเทนนิสสุดยอดของโลกมาโดยตลอดก็เจอวิกฤติที่ไม่แตกต่างกัน และดูเหมือนจะหนักหนากว่าประเทศอื่นๆจนกระเทือนฐานะ(อดีต)มหาอำนาจลูกสักหลาด ถึงแม้ว่า การรอคอยของสหรัฐฯจะสั้นน้อยกว่าอังกฤษ ออสเตรเลียและฝรั่งเศสก็ตาม



ยูเอสโอเพ่น - แชมป์แรกและแชมป์เดียวของร๊อดดิกแต่เป็นแชมป์สุดท้ายของสหรัฐฯ(?)


แอนดี้ ร๊อดดิช คือนักหวดอเมริกันคนล่าสุดที่สามารถคว้าแชมป์ยูเอสโอเพ่นในบ้านได้อย่างสมศักดิ์ศรีมืออันดับหนึ่งของโลกเมื่อปี 2003  ร๊อดดิชถือเป็นความหวังสูงสุดของวงการเทนนิสอเมริกานับตั้งแต่ยุคของจิมมี่ คอนเนอร์ จอห์น แม๊คแอนโร อังเดร อกัสซี่ และพีท แซมพราส ร๊อคดิชทำสถิติเป็นนักหวดเบอร์หนึ่งของโลกที่อายุน้อยที่สุดของประเทศนับตั้งแต่ปี 1973


นักหวดสิงห์อีซ้าย - จิมมี คอนเนอร์

นักหวดอารมณ์ร้อนสุดๆ - จอห์น แม๊คแอนโร

พีท แซมพราส - สุดยอดนักเทนนิสอเมริกันที่เก่งที่สุด



อังเดร อกัสซี่ - นักเทนนิสเจ้าเสน่ห์




ใครจะเชื่อว่า โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์จะกลายเป็นดาวเรืองที่ดับแสงจรัสของร๊อดดิชและความหวังของคนอเมริกันได้อย่างเด็ดขาด และร๊อดดิชกลายเป็นนักเทนนิสอเมริกันคนสุดท้ายที่คว้าแชมป์รายการแกรนด์สแลม เรียกว่าเป็นหนึ่งทศวรรษที่วงการเทนนิสอเมริกันไม่มีแชมป์ใดๆให้ภูมิใจเลย เมื่อเทียบกับอดีตอันยิ่งใหญ่ที่นักหวดอเมริกันช่วยกันคว้าแชมป์แกรนด์สแลมตลอดช่วงระหว่างปี 1989-2003 ได้รวมกันถึง 28 แชมป์



โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ - สุดยอดนักเทนนิสที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์

ถึงแม้ว่า จะมีนักหวดอเมริกันเพียงแค่ 2 คนติดอยู่ใน 50 อันดับแรกของโลก แต่ก็ไม่มีนักเทนนิสจากสหรัฐฯที่ติดอันดับท๊อบเท็นมาตั้งแต่ปี 2007 ไม่มีนักเทนนิสระดับดาวเรืองเป็นสตาร์ที่โลกเทนนิสรู้จักมักคุ้น ซ้ำร้ายกลายเป็นเพียงไม้ประทับแห่งวงการเทนนิสโลกไปอย่างน่าช้ำใจเป็นที่สุด 

ในรายการวิมเบิลดันล่าสุด ต้องถือเป็นครั้งแรกในรอบศตวรรษเลยก็ว่าได้ ที่ไม่มีนักหวดอเมริกันผ่านเข้าสู่รอบ 3 ได้เลยแม้เพียงคนเดียว เป็นปรากฏการณ์ดาวโรยที่จอห์น แม๊คแอนโรหรือคนอื่นๆ ยงหาคำตอบไม่ได้ว่าเป็นผลเนื่องมาจากเหตุผลใดกันแน่

ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหนกว่าที่สตาร์อเมริกันจะเกิดและเจิดจรัสคว้าแชมป์ยูเอสโอเพ่นและแชมป์รายการแกรนด์สแลมอื่นๆให้วงการเทนนิสอเมริกาได้ภาคภูมิใจอีกครั้งสมกับฐานะอดีตมหาอำนาจลูกสักหลาดที่ยิ่งใหญ่เหลือหลาย


บจอห์น บอร์ค เจ้าของ 11 ชมป์แกรนด์สแลม

สเตฟาน เอ๊ดเบิร์ก - เจ้าของแชมป์ 6 แกรนด์สแลม

แม๊ค วิลันเดอร์ - เจ้าของแชมป์ 7 แกรนด์สแลม

เช่นเดียวกับสวีเดนที่เคยผลิตนักเทนนิสดาวเรืองระดับโลกก่อนหน้านี้ในอดีต โลกเทนนิสต้องขอบคุณสวีเดนที่ผลิตสุดยอดนักเทนนิสระดับโลกอย่างบจอห์น บอร์ก สเตฟาน เอ๊ดเบิร์กและแม๊ค วิลันเดอร์ที่ช่วยกันคว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการต่างๆ รวมกันแล้วถึง 24 แชมป์อย่างชนิดที่ไม่มีนักเทนนิสชาติไหนทำสถิติเช่นนี้ได้
 

และนับตั้งแต่โธมัส โจฮันส์สันคว้าแชมป์รายการออสเตรเลี่ยนโอเพ่นเมื่อปี 2002 ก็มีนักเทนนิสจากดินแดนพระอาทิตย์ไม่ตกดินอีกเลย เป็นทศวรรษแห่งดาวโรยของประเทศที่มีตำแหน่งแชมป์แกรนด์รวมกันมากที่สุดเป็นอันดับรองจากสหรัฐฯ

ซ้ำร้าย ณ ปัจจุบันนี้ ไม่มีนักเทนนิสจากสวีเดนคนใดที่จะสามารถสร้างความเกรียงไกรหรือสร้างความหวังใดๆให้กับประเทศได้เลย สวีเดนไม่มีแม้กระทั่งนักเทนนิสที่ติดอยู่ใน500 อันดับเลย
 
น่าเสียดายว่า ปรากฏการณ์ดาวโรยที่เกิดขึ้นกับวงการนักเทนนิสของสหรัฐฯ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศสและสวีเดน ทำให้วงการลูกสักหลาดขาดเสน่ห์ไปมากโขทีเดียว



.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มอเตอร์ หรือ สติกเกอร์

เมื่อตอนที่ Real Madrid ทีมดังในสเปนตัดสินใจขาย Claude Makelele ให้กับทีม Chelsea แล้วซื้อ David Beckham มาแทนที่ในช่วงกลางปี 2003 ปรา...