14 สิงหาคม 2555

เรื่องของแก้ว คนแคล้วโชค

.



บนสังเวียนพื้นผ้าใบ จะมีนักชกเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่โชคดีเสมอ
เพราะฉะนั้น การชกชิงเหรียญทองมวยสากลสมัครเล่นรุ่นไลท์ฟลายเวตในกีฬาโอลิมปิคที่ลอนดอนจึงจบลงด้วยโชคที่เข้าข้างโจว ซื่อหมิงเพียงคนเดียว
ในขณะที่น้ำตาของแก้ว พงษ์ประยูรก็สะท้อนถึงความอับโชคไม่สมหวัง พอๆกับภาพอาการทรุดลงลงไปกองกับพื้นบ่งบอกถึงความเจ็บปวดรวดร้าวเป็นที่สุดของนักชกไทย ผู้ซึ่งมีอายุมากที่สุดในบรรดานักมวยที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงเหรียญทองทั้งหมด




ข้าชื่อโจว ซื่อหมิง - สุดยอดนักชกกำปั้นหนึ่งเดียวจากจีนแผ่นดินใหญ่


ต้องยอมรับความจริงว่า นอกเหนือจากฝีมือขั้นเทพแล้ว นักมวยจีนนามโจว ซื่อหมิงคนนี้ เป็นนักมวยที่มีโชคช่วยบุญเสริมมา(เกือบ)ตลอดบนเส้นทางสร้างความยิ่งใหญ่บน สังเวียนมวยสากลสมัครเล่น ประการสำคัญ โจว ซื่อหมิงคือนักมวยแห่งประวัติศาสตร์วงการกีฬาจีนที่สร้างประวัติศาสตร์หลายๆ หน้าในแก่ประเทศของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักมวยจีนคนแรกที่คว้าเหรียญโอลิมปิค เป็นคนแรกที่คว้าเหรียญทอง เป็นคนแรกที่คว้าสองเหรียญทองติดต่อกัน และเป็นคนแรก(ซึ่งอาจจะเป็นคนเดียว) ที่สามารถคว้าได้สามเหรียญสามสมัยติดต่อกัน  ยิ่งไปกว่านั้น ดีกรีแห่งความสำเร็จในฐานะแชมป์โลกมวยสากลสมัครเล่นรุ่นไลท์ฟลายเวตสามสมัย ก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงฝีมือขั้นเทพของโจว ซื่อหมิง
บนเกียรติประวัติแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ดังกล่าวนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า อย่างน้อยที่สุดชื่อของโจว ซื่อหมิง ได้กลายเป็นตำนานหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์มวยสากลสมัคร เล่นไปแล้ว
แต่ในเบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของยอดมวยชาวจีนคนนี้ ก็มีเรื่องกังขาถึงขั้นฉาวโฉ่เกิด ขึ้นให้คนในวงการมวยตั้งเป็นคำถาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อสงสัยในสองเหรียญทองโอลิมปิคที่ได้มา อย่างชนิดที่เรียกว่าไม่ขาวสะอาดให้ภูมิใจได้ร้อยเปอร์ เซ็นต์สักเท่าไหร่นัก
นับตั้งแต่สร้างชื่อเสียงเป็นนักมวยจีนคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าเหรียญ(ทอง แดง)ในกีฬาโอลิมปิคที่กรุงเอเธนส์เมื่อ 8 ปีที่แล้ว จนทำให้ชื่อของโจว ซื่อหมิงเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการกีฬาจีนมากขึ้น  โจว ซื่อหมิงได้กลายเป็นความหวังหนึ่งเดียวที่จะคว้าเหรียญทองโอลิมปิคจากกีฬาชกมวยให้คนจีนได้ภาคภูมิใจ
เพราะครั้งหนึ่ง กีฬาชกมวยถือเป็นกีฬาต้องห้ามสำหรับคนจีน เนื่องจากเหม๋าเจ๋อตุงอดีตผู้นำจีนมองว่า กีฬาประเภทนี้มีความเป็นตะวันตกมากเกินไป  โจว ซื่อหมิงจึงถือเป็นนักมวยจีนคนแรกๆที่สร้างประวัติศาสตร์ประกาศศักดานักมวยจีนสู่เวทีมวยโลก และเปิดประตูกีฬาชกมวยสู่สังคมจีน
ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อจีนได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิคในปี 2008 โจว ซื่อหมิงจึงถูกคาดหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าจะต้องได้เหรียญทองอย่างแน่นอน และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
บนโพเดี้ยมแห่งเกียรติยศ โจว ซื่อหมิงสามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองเหรียญแรกจากกีฬามวยสมัครเล่นให้แก่ประเทศจีน หมายเลข “2008” กลายเป็นเลขที่มีความหมายอย่างยิ่งทั้งต่อโจว ซื่อหมิง และวงการกีฬาของจีน
แต่เบื้องหลังแห่งความยิ่งใหญ่ดังกล่าว ก็เกิดเป็นข้อครหาว่า เหรียญทองนี้ของโจว ซื่อหมิงไม่ได้มาอย่างสมศักดิ์ศรีของแชมป์  ถึงแม้ว่าโจว ซื่อหมิงจะสามารถเอาชนะแพทริก บาร์นส์ ยอดนักมวยจากไอร์แลนด์เหนือในรอบรองชนะเลิศได้อย่างสะดวกสบายด้วยคะแนน15 ต่อ 0 ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้สำหรับนักมวยในระดับดีกรีเหรียญทองแดงสองสมัย (ในปี 2008 และ 2012) แล้วความจริงก็ปรากฏเป็นประจักษ์ขึ้นมาว่า หมัดและแต้มที่ควรจะเป็นของบาร์นส์อย่างชัดเจน กลับกลายว่ากรรมการได้ทำหน้าที่ผิดพลาด (โดยเจตนา?) กดเป็นคะแนนให้นักมวยจีนไปทั้งหมดอย่างไม่น่าเชื่อ
ในรอบชิงชนะเลิศ โจว ซื่อหมิงพบกับสุดยอดนักมวยจากมองโกเลียนามเซอร์ดัมบา พูเรดอร์จผู้เป็นขวากหนามสำคัญที่สุดสำหรับภาระกิจสร้างประวัติศาสตร์ของโจว ซื่อหมิงในครั้งนี้ แต่ดูเหมือน ว่าชะตาลิขิตและโชคอำนวยให้โจว ซื่อหมิงสามารถคว้าชัยได้แบบไม่เหนื่อยมากนัก เนื่องจากคู่ชิงจากมองโกเลียขอยุติการชกในช่วงต้นยกที่ 2 เพราะบาดเจ็บที่หัวไหล่ขวา
ภายใต้ทฤษฏีสมคบคิด ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่ายอดนักมวยมองโกเลียนคนนี้บาดเจ็บจริงหรือไม่(?) จนต้องขอยอมแพ้ หรือว่าเป็นการเสียสละเพื่อชาติเพื่อความ สัมพันธ์อันดีระหว่างมองโกเลียและพี่ใหญ่อย่างจีน(?)
และด้วยความเชื่อของทฤษฏีสมคบคิด(ที่ดูมีน้ำหนักยิ่งขึ้น?) ดูเหมือนว่า เหรียญเงินโอลิมปิคสำหรับ พูเรดอร์จถูกชดเชยหรือทดแทนด้วยตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นไลท์ฟลายเวทที่มิลานในปี 2009(?) เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะว่าโจว ซื่อหมิงถอนตัวไม่เข้าร่วมชิงชัยด้วย ทั้งๆที่นักมวยจีนคนนี้เป็นตัวเต็งจ๋ามีดีกรีเป็นแชมป์โลกแชมป์เก่าสองสมัย ในปี 2005 และ 2007 และแชมป์เหรียญทองโอลิมปิคสดๆร้อนๆ ในปีก่อนหน้านั้น แต่หลังจากนั้น โจว ซื่อหมิงก็กลับมาคว้าแชมป์โลกสมัยที่สามในปี 2011
โจว ซื่อหมิงมีภารกิจสร้างประวัติศาสตร์อีกหลายๆหน้าในโอลิมปิคที่ลอนดอนในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพิสูจน์ให้วงการมวยโลกได้ประจักษ์ว่า เหรียญทองโอลิมปิคที่ได้มาเมื่อสี่ปีที่แล้วนั้นใสสะอาดไม่มีเบื้องหน้า เบื้องหลังใดๆ  แต่สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม
ต้องยอมรับว่า โชคมีส่วนไม่น้อยที่ทำให้โจว ซื่อหมิงผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้ เพราะสามารถเอาชนะคู่ปรับเก่าอย่างแพทริก บาร์นส์ ในรอบรองชนะเลิศได้อย่างเฉียวฉิวที่สุดด้วยคะแนนที่เท่ากัน 15 ต่อ 15 จนต้องตัดสินด้วยจำนวนหมัดที่ชกหรือคะแนนดิบ




เหรียญทองโอลิมปิคที่มีค่าเพียงแค่ทองคำ?



และโชคก็หนุนส่งอีกครั้งหนึ่งทำให้โจว ซื่อหมิงสามารถคว้าเหรียญทองเหรียญที่สองให้กับตัวเอง ด้วยชัยชนะที่เหนือแก้ว พงศ์ประยูรอย่างน่ากังขาเป็นที่สุด และชนิดที่ว่า ทฤษฏีสมคบคิดตาม มาหลอกหลอนอีกครั้ง จนถึงกับมีการกล่าวหาว่านักมวยไทยถูกปล้นชัยชนะ(?)
แน่นอนที่สุด  น้ำตาของโจว ซื่อหมิงในวันที่คว้าเหรียญทองในปักกิ่งเกมส์เมื่อสี่ปีที่แล้ว ย่อมแตกต่างจากน้ำตาของแก้วในลอนดอนเกมส์ปีนี้อย่างสิ้นเชิง 
ในการแข่งขันโอลิมปิคครั้งนี้ ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่หัวใจสลายไปกับแก้ว แต่คนฟิลิปปินส์เองก็หัวใจสลายไม่แพ้กัน เพราะมาร์ค บาริกก้านักมวยความหวังเหรียญทองหนึ่งเดียวของฟิลิปปินส์ในรุ่นไลท์ฟลายเวทเดียวกันนี้ ก็ต้องแพ้ภัยถูกตัดคะแนนแบบน่ากังขาเช่นเดียวกับกรณีของแก้วแพ้ตกรอบไปแบบเจ็บปวดที่สุด
หัวใจสลายของคนไทยในครั้งนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะไม่สามารถยอมรับในสิ่งที่ตัดสินแบบค้านสายตาเช่นนี้ และเชื่อได้ว่า ต่อให้ไปฟ้อง ครูอังคณา  หรือศาลไหนๆก็ยากที่จะทำให้สหพันธ์มวยสา กลสมัครเล่นนานาชาติหรือไอบ้ากลับคำตัดสินได้




สองผู้ยิ่งใหญ่แห่งสมาคมมวยฯ - อดีตนายกสมาคม(ซ้ายมือ)และนายกสมาคมคนปัจจุบัน (ขวามือ)

ประธานไอบ้าชาวไต้หวัน

สำหรับสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย(และสมาคมกีฬาอื่นๆ) มีบทเรียนที่ควรจะ ต้องพิจารณาทบทวน 2 ประการ ดังนี้
หนึ่ง จะเห็นได้ว่า สมาคมมวยฯมีข้อบกพร่องอย่างชัดเจนถึงสองครั้งในการยื่นเรื่องประท้วงผลการตัดสิน ครั้งแรก ก็คือกรณีที่(ผู้แทน)สมาคมฯไม่มีเงินสด 500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 15,500 บาท ที่จะต้องจ่ายมัดจำให้ไอบ้าเมื่อต้องการยื่นเรื่องประท้วงผลการตัดสินกรณี ของสายลม อาดีตามกฎระเบียบ จนต้องถึงขั้นต้องยืมเงินจากนักข่าว ซึ่งเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อที่จะเกิดขึ้นกับสมาคมกีฬาที่เป็นความหวังสูงสุด ของประเทศ ครั้งที่สองก็คือการทึกทักเอาเอง(จนเข้าใจผิด)ว่า สามารถยื่นเรื่องประท้วงผลการตัดสินได้ภายใน 30 นาทีในกรณีของแก้ว พงศ์ประยูร  ทั้งๆที่ระเบียบตัวอักษรของไอบ้าเขียนไว้ชัดเจนว่าต้องดำเนินการภายใน 5 นาที
สอง ดูเหมือนว่า การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารในสมาคมฯเมื่อปีที่แล้วไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้บริหารชุดเก่าโดยเฉพาะพล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ อดีตนายกสมาคมฯมีเรื่องมีราวเป็นคู่กรณีกับประธานไอบ้าชาวไต้หวันจนถึงขั้น ฟ้องร้องกัน ความขัดแย้งดังกล่าว นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนายกสมาคมฯคนใหม่ด้วยความหวังว่า ไอบ้าจะอำนวยโชคให้แก่นักมวยไทยบ้างไม่มากก็น้อยซึ่งน่าจะเป็นเช่นนั้น  แต่ภายใต้ทฤษฏีสมคบคิด การไปปรากฏตัวและนั่งเชียร์ถึงขอบเวทีของพล.อ.ทวีป ไม่ว่าจะในฐานะอดีตนายกสมาคมฯหรือในฐานะคนไทยผู้ชื่นชอบกีฬาประเภทนี้ก็ตาม ก็อาจจะทำให้ประธานไอบ้าผู้เป็นไม้เบื่อไม้เบาเกิดอาการหมั่นใจไม่พอใจ จนมีผลต่อความพ่ายแพ้ของแก้วไปอย่างน่าเสียดายเป็นที่สุดก็เป็นได้



บนสังเวียนกำปั้น มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่โชคดี


ใช่...นี่คือผู้ชนะตัวจริง


นี่คือความหมายของเกมกีฬา - ผู้ชนะที่ปลอบใจผู้แพ้


สำหรับแก้ว พงษ์ประยูรแล้ว เหรียญเงินที่ได้ในครั้งนี้ ดูเหมือนว่ามีค่ามีความภูมิใจมากกว่าเหรียญทอง(ของโจว ซื่อหมิงที่)เสียอีก โดยเฉพาะการเห็นอกเห็นใจจากคนไทยทั่วประเทศซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด       




อิวานเดอร์ โฮลิฟิลด์ สุดยอดมวยยักษ์คนหนึ่งในประวัติศาสตร์


 
รอย โจนส์ จูเนียร์ สุดยอดมวยโลกที่ยอดเยี่ยมที่สุด


ประการสำคัญที่อยากฝากให้คิดก็คือว่ามีนักมวยระดับโลกที่สามารถเป็นตัวอย่าง เป็นโมเดลให้แก้วสามารถก้าวข้ามพ้นความผิดหวังครั้งใหญ่นี้ได้อย่างเป็นอย่างดี เพราะสุดยอดมวยโลกชาวอเมริกันอย่างอีวานเดอร์ โฮลิฟิลล์อดีตแชมป์โลกมวยรุ่นยักษ์ที่ยิ่ง ใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติ ศาสตร์มวยสหรัฐฯ และรอย โจนส์ จูเนียร์สุดยอดแชมป์ที่ได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยมที่สุด(แบบปอนด์ต่อปอนด์)ตลอดกาล ก็เคยผ่านประสบ การณ์ที่ผิดหวังเป็นที่สุดในเกมส์โอลิมปิคมาแล้ว
การถูกโกงถูกปล้นชัยชนะอย่างหน้าตาเฉยแบบค้านสายตาผู้ชมทั่วโลก มีส่วนสำคัญที่ผลัก ดันให้ทั้งโฮลิฟิลล์และรอย โจนส์ก้าวสู่ความยิ่งใหญ่บนสังเวียนการต่อสู่ในเวลาต่อมาจนกลายเป็นตำนานในประ วัติศาสตร์


.

11 สิงหาคม 2555

พลังของคน "สระแอล"

.







ชั่วโมงนี้ ต้องเรียกว่าสระแอลมาแรงเหลือเกิน  เรียกว่า ชั่วโมงนี้ หากไม่ได้อยู่ในหลืบเขา ก็คงไม่มีใครไม่รู้จักคนไทยพันธ์สระแอลที่ดังที่สุด 3 คน

พิมพ์ศิริ ศิริแก้วหรือแต้วคือนักกีฬาผู้คว้าเหรียญเงินเป็นเหรียญแรกให้กับทัพนักกีฬาไทยในการแข่งขันโอลิมปิค 2012 ที่กรุงลอนดอน

เป็นเหรียญโอลิมปิคที่ทำให้คนไทยมีความสุขตั้งแต่วันแรกๆของการแข่งขัน



พลังแต้ว พลังหญิง






เหรียญเงินนี้ที่ได้มา วาสนาจะรุ่งโรจน์





และแก้ว พงษ์ประยูรคือนักกีฬา "สระแอล" ที่เป็นความหวังสูงสุดของคนไทย ณ เวลานี้

เป็นความหวังเหรียญทองเดียวของกองทัพนักกีฬาไทยทั้ง 37 คน

ทั้งแก้วและแต้วต่างเป็นนักกีฬา "สระแอล" ด้วยความบังเอิญ ยิ่งหากดูนามสกุลของแต้วแล้ว ก็ต้องบอกว่าปีนี้เป็นปีทองของของคนชื่อ(สกุล) "แก้ว" จริงๆ 


ถึงแม้ว่าชื่อแก้ว แต่ก็หวังทองเป็นที่สุด



ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่า ดวงชะตาของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรจะมีส่วนกำหนดโชคชะตาว่า  แก้ว พงษ์ประยูรจะสามารถคว้าเหรียญทองได้หรือไม่ 



คนที่สามนามตัวแอลที่ไม่มีคนไทยคนไหนไม่รู้จักก็คือชื่อ "แม้ว" ซึ่งเป็นชื่อนิกเนมของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  นักการเมืองที่ยอมรับว่าชื่อดังที่สุด

คุณ "แม้ว" เกี่ยวข้องกับโอลิมปิคอย่างที่คนไทยส่วนใหญ่หลงลืมกันไป เพราะนับตั้งแต่ได้รับอนุญาตให้เป็นตัวแทนโอลิมปิคไทย ไปร่วมในพิธีเปิดโอลิมปิคที่ประเทศจีนเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2551 จนถึงบัดนี้ก็ครบ 4 ปีพอดี  อดีตนายกรัฐมนตรีท่านนี้ก็ยังไม่กลับมาเมืองไทยเสียที  ราวกับตั้งปณิธานว่า จะอยู่ดูโอลิมปิคให้ครบสองสมัยติดต่อกัน เมื่อดูครบทั้งปักกิ่งและลอนดอนแล้วจึงค่อยคิดกลับเมืองไทย

แน่นอนที่สุด คุณ"แม้ว" วาดหวังเป็นที่สุดว่า โอลิมปิคครั้งหน้าในปี 2559 ที่กรุงริโอเดอจาไนโร ประเทศบราซิล จะมีโอกาสนั่งชมสุดยอดเกมการแข่งขันกีฬาของโลกบนหน้าจอทีวีร่วมกับครอบครัวที่เมืองไทย



.

มอเตอร์ หรือ สติกเกอร์

เมื่อตอนที่ Real Madrid ทีมดังในสเปนตัดสินใจขาย Claude Makelele ให้กับทีม Chelsea แล้วซื้อ David Beckham มาแทนที่ในช่วงกลางปี 2003 ปรา...