เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นหรือเกิดขึ้นมาก่อนก็ว่าได้ สำหรับปรากฏการณ์ที่คนไทยเสื้อแดงจำนวนหลายหมื่นคนแห่แหนไปที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ด้วยเหตุผลเพื่อร่วมรดน้ำดำหัวและพบปะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ต้องลี้ภัยอยู่ต่างประเทศตั้งแต่กลางปี 2551
จากข้อมูลตัวเลขของทางด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือตม.กัมพูชา คนไทยเสื้อแดงจำนวนกว่า 38,000 คน เดินทางเข้าประเทศพร้อมๆกัน ถือเป็นสถิติตัวเลขที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
ภาพของคนไทยเสื้อแดงจำนวนเรือนหมื่นไ้ด้ร่วมใจแสดงพลังทางการเมืองดังกล่าว ทำให้ย้อนนึกถึงเหตุการณ์ในประเทศเยอรมนีเมื่อกลางปี 2549 ซึ่ง ณ เวลานั้น เยอรมนีเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก
ว่ากันว่า ในบรรดาประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลในคราวนั้น ไม่มีประเทศใดที่ "แบก" ความทรงจำ อันขมขื่นและภาระกิจทางประวัติศาสตร์มากเท่ากับเนเธอร์แลนด์
เพราะประเทศเล็กๆที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลอย่างเนเธอร์แลนด์หรืออีกชื่อหนึ่งคือฮอลแลนด์ เคยถูกกองทัพนาซีเยอรมันรุกรานและยึดครองประเทศในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นช่วงประวัติศาสตร์ที่ขมขื่นที่สุดสำหรับชาวดัทช์ก็ว่าได้
กองทัพดัทช์สีส้มบนแผ่นดินเยอรมัน |
กองทัพดัทช์สีส้มละลานตาบนแผ่นดินเยอรมัน |
บางครั้งแฟนบอลอังกฤษจึงเป็นอะไรทีมากกว่าแค่แฟนบอล |
|
ในทางการทหารแล้ว เนเธอร์แลนด์ไม่เคยมีศักยภาพที่จะสามารถต่อสู้ แก้แค้นหรือรุกรานยักษ์ใหญ่แห่งลุ่มแม่น้ำไรท์อย่างเยอรมนีได้เลย ทั้งในอดีตและในปัจจุบัน
ด้วยเหตุนี้ เมื่อเยอรมนีเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก จึงเป็นโอกาสอันงามที่หยิบยื่นให้ชาวดัทช์ได้กระทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อระบายหรือสนองตอบต่อความทรงจำที่ขมขื่นของชาวดัทช์ที่ยังฝังลึกรากลึกอยู่ และเป็นแรงจูงใจมากพิเศษให้ชาวดัทช์เดินทางข้ามประเทศไปยังเยอรมนีที่มีพรมแดนติดกันอย่างมืดฟ้ามัวดิน
ในทางจิตวิทยาแล้ว คนดัทช์รู้สึกไม่น้อยว่า ถึงที่สุดแล้วก็มีวันที่ได้เห็นภาพของกองทัพสีส้มแสดจรัสอยู่บนแผ่นดินเยอรมนีอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ
เป็นสัญญลักษณ์ที่ทำให้ชาวดัทช์รู้สึกฮึกโหมมากเป็นพิเศษที่มีโอกาสได้เหยียบแผ่นดินของชาติที่เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน ทั้งๆที่กองทัพสีส้มจำนวนมากบนท้องถนนหรือตามเมืองต่างๆในเยอรมนีที่ทีมชาติแข่งขันนั้น เป็นเพียงแฟนฟุตบอล
แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญลักษณ์ที่มีความหมายทางจิตวิทยาไม่น้อยสำหรับชาวดัทช์และความทรงจำอันขมขื่นร้าวลึกในอดีต
เช่นเดียวกัน ภาพของกองทัพคนไทยเสื้อแดงร่วมๆสี่หมื่นบนแผ่นดินเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชาเมื่อช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา พร้อมๆกับการโบกธงชาติไทยผืนใหญ่ี ราวกับว่าอยู่บนผืนแผ่นดินไทย ย่อมมีความหมายที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และเชื่อได้ว่าเป็นสิ่งที่คนไทยเสื้อแดงกระทำโดยไม่รู้ตัว และเป็นสิ่งที่ผู้นำและคนกัมพูชาไม่คาดคิด
ถือว่าเป็นเรื่องไม่ปกตินักที่รัฐบาลของประเทศใดประเทศหนึ่งจะยินยอมอนุญาตให้คนชาติอื่นแห่แหนไปทำกิจกรรมทางการเมืองภายในประเทศอย่างใหญ่โตเหมือนเช่นที่เกิดขึ้นนี้ ราวกับว่าไม่คำนึงถึงอำนาจอธิปไตยของตัวเอง
ในวันที่ "นายใหญ่" ใหญ่จริงๆบนแผ่นดินกัมพูชา |
ว่ากันโดยข้อเท็จจริงแล้ว คนไทยส่วนใหญ่สับสนหรือไม่รู้ความหมายที่แ้ท้จริงของคำว่า "เสียมราฐ" และ "เสียมเรียบ" และเรียกขานกันอย่างผิดๆถูกๆ ทั้งๆที่โดยข้อเท็จจริงแล้ว ถึงแม้จะเป็นชื่อเมืองเดียวกันแต่มีความหมายแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
สำหรับคนกัมพูชาแล้ว "เสียมราฐ"แปลว่า สยามชนะหรือกัมพูชาเป็นเมืองขึ้นของสยาม และ "เสียมเรียบ" หมายถึง สยามแพ้
คลืนคนไทยเสื้อแดงในเสียมราฐ: ปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้น |
ธงไทยไตรรงค์ผืนใหญ่โบกสะบัดในเ้ส้นทางสู่เสียมราฐ |
จึงนับเป็นความบังเอิญอย่างยิ่ง ที่ปรากฏการณ์คนไทยเสื้อแดงในเสียมราฐครั้งนี้ กลายเป็นสิ่งที่สะท้อนความหมายในทางประวัติศาสตร์ของเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของนครวัดแห่งนี้
ทำให้ชือ "เสียมราฐ" มีความหมายเป็น "เสียมราฐ" ที่คนกัมพูชาย่อมไม่ปลื้มเป็นแน่
.
อย่าให้ฮุนเซ็นเห็นนะ..เด๋วน้าแม้วนู๋เดือดร้อน ช่างคิดเกิ๊น!
ตอบลบ