6 มีนาคม 2558

มอเตอร์ไซค์ของท่านผู้นำ

.


 นอกเหนือจากรถยนต์ประจำตำแหน่งของท่านผู้นำแล้ว รถจักรยานยนต์ก็ถือว่ามีบทบาทเชื่อมโยงกับฐานะความเป็นผู้นำอย่างน่าสนใจ รวมทั้งจักรยานที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของผู้นำในโลกปัจจุบัน

ถึงแม้จะไม่ได้มีฐานะเป็น รถประจำตำแหน่งเหมือนรถยนต์คันหรูคันโตโก้ขรึม แต่มอเตอร์ไซค์กลับมีบทบาทหลายๆประการ ที่รถยนต์ทำไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการการหนุนเสริมภาพลักษณ์ของท่านผู้นำในหลายๆมิติ




โดยพื้นฐานที่สุด จักรยานยนต์มีฐานะเป็น ยานพาหนะที่ใช้สำหรับการคมนาคมเดินทางทั่วไปและสำหรับคนทั่วๆไป  แต่สำหรับบุคคลในระดับผู้นำหรือผู้มีชื่อเสียงในวงการต่างๆแล้ว มอเตอร์ไซค์เป็นอะไรที่มากกว่าเพียงแค่ยานพาหนะคันหนึ่ง ซึ่งสามารถจำแนกออกเป็นสองกลุ่ม

กลุ่มแรกคือบรรดาผู้นำ (รวมทั้งคนมีชื่อเสียงในวงการต่างๆ) ที่รักและหลงใหลในมอเตอร์ไซค์อย่างจริงจัง มีความสุขกับการได้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ไปในพื้นที่ต่างๆด้วยตนเอง   ได้สลัดความเป็น ทางการ ออกจากรถยนต์ประจำตำแหน่งที่ไม่สามารถขับขี่เองได้  และรู้สึกถึงความเป็นอิสระบนหลักอานสองล้อยนต์ที่มีเสน่ห์เหลือล้น  ถือเป็นวิธีการพักผ่อนหย่อนใจที่มีคลาสมีราคา (เหมือนเช่นกีฬากอล์ฟที่กลายเป็นกีฬาเฉพาะสำหรับผู้นำ)

ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่ง มองหรือใช้มอเตอร์ไซค์ในฐานะ เครื่องมือ หนึ่งในการหนุนสร้างภาพพจน์ของผู้นำ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ด้วยเอกลักษณ์หรือรูปแบบเฉพาะตัวของมอเตอร์ไซค์ (โดยเฉพาะฮาร์เลย์ เดวิดสัน) ที่แตกต่างจากจักรยานยนต์ของคนทั่วๆไป จึงกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่แสดงตัวตนของผู้นำที่แตกต่างจากคนอื่นๆ

ที่สำคัญที่แตกต่างจากการขับเรือยอร์ชหรือเครื่องบินส่วนตัวก็คือ การขับขี่มอเตอร์ไซค์ช่วยหนุนเสริมภาพลักษณ์ของผู้นำให้มีความเป็นมนุษย์ เหมือนเช่นปุถุชนตาดำตาสีฟ้าคนอื่นๆ เพราะการขับขี่มอเตอร์ของผู้นำแทบจะไม่มีความเป็นพิธีการให้ยุ่งยาก แต่คงความเป็นส่วนตัวหรือตัวตนของผู้นำคนนั้นๆ จึงเป็นเหมือนการสื่อสารไปถึงสาธารณชนว่า ตัวผู้นำไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วๆไป สามารถเข้าถึงหรือสัมผัสได้ ซึ่งย่อมส่งผลดีต่อความนิยมชมชอบผู้นำคนนั้นๆไม่มากก็น้อย
 
ด้วยความที่อังกฤษเป็นประเทศแรกๆที่ผลิตมอเตอร์ไซค์และมอเตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะหนึ่งที่จำเป็นในสมรภูมิศึกสงครามโลก  ดังนั้น การเชื่อมโยงระหว่างผู้นำกับมอเตอร์ไซค์จึงเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกๆที่นี่ ถึงแม้ว่าสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 (พระอัยกาของสมเด็จควีนอลิซาเบธที่ 2) จะทรงไม่เห็นด้วยกับการที่พระโอรสคือ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 (พระบิดาของสมเด็จควีนอลิซาเบธที่ 2) ทรงหลงใหลในมอเตอร์ไซค์ เพราะเชื่อว่า สุภาพบุรุษควรขับรถยนต์(ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์) ก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถบังคับห้ามได้




แม้กระทั่ง สมเด็จควีนอลิซาเบธที่ 2 ในขณะที่ยังดำรงฐานะเป็นเจ้าฟ้าหญิงก็ทรงชื่นชอบมอเตอร์ไซค์เหมือนพระบิดา พระองค์เคยทำหน้าที่เป็น พลขับและช่างเครื่อง ของกองทัพอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และหลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์ในปี 1952 ก็ไม่เคยปรากฏให้เห็นว่า พระองค์จะทรงขับขี่รถมอเตอร์ไซค์อีกเลย



อย่างไรก็ตาม หลายๆพระองค์ก็ได้ชื่อว่าทรงชื่นชอบจักรยานยนต์อย่างมากๆ  นับตั้งแต่เจ้าฟ้าชายฟิลิป (พระสวามี) และเจ้าฟ้าชายชาลส์ (พระโอรส) โดยเฉพาะเจ้าฟ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าฟ้าชายแฮร์รี่ที่ทรงชื่นชอบมากเป็นพิเศษ



ขณะเดียวกัน กษัตริย์ในประเทศอื่นๆที่ได้ชื่อว่าชื่นชอบและหลงใหลในมอเตอร์ไซค์เป็นอย่างมาก  ก็คือกษัตริย์ฮวน คาร์ลอสแห่งสเปน(1975-2014)  กษัตริย์อัลแบร์ที่ 2 แห่งเบลเยี่ยม (1993-2013) และพระเจ้าชาร์(กษัตริย์พระองค์สุดท้าย) แห่งอิหร่าน 



ที่ควรจะต้องกล่าวถึงมากเป็นพิเศษก็คือกษัตริย์ฮุสเซน(1952-1999) และกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน (1999-ปัจจุบัน) ที่ปรากฏภาพเป็นประจักษ์ว่าทรงรักและหลงใหลในมอเตอร์ไซค์อย่างหาใครเทียบไม่ได้   ทั้งสองพระองค์ทรงขับขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยพระองค์เอง ถือเป็นการเสด็จไปเยี่ยมราษฏรในส่วนต่างๆทั่วประเทศ  นอกจากนี้ สุลต่านแห่งรัฐยะโฮร์ มาเลเซียคนปัจจุบันก็ถือว่าทรงชื่นชอบรถจักรยานมากๆ เช่นกัน โดยเฉพาะการตกแต่งรถของพระองค์เป็นลายเสือเหลืองสัญญลักษณ์ของประเทศ 




การที่กษัตริย์และเจ้าฟ้าชายของหลายๆประเทศนิยมและรักในมนต์เสน่ห์ของมอเตอร์ไซค์ ทำให้มอเตอร์ไซค์กลายเป็นพาหนะที่มีระดับไปในตัว (บวกกับภาพยนตร์หลายๆเรื่องและพระเอกหลายๆ คนที่ทำให้ภาพพจน์ของจักรยานยนต์ดูดีขึ้นไปด้วย)

ในฟากผู้นำของสหรัฐฯซึ่งถือเป็น บ้านของสุดยอดจักรยานยอดนิยมสำหรับผู้นำอย่างฮาร์เลย์ เดวิดสัน ดูเหมือนแทบจะไม่ปรากฏว่ามีอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใดที่หลงรักการขับขี่มอเตอร์ไซค์อย่างมากๆ แต่กลับกลายเป็นกลุ่มวุฒิสมาชิกและผู้ว่าการรัฐหลายๆคนที่นิยมชมชอบมอเตอร์ไซค์




อาจจะมีผู้นำบางคนที่อาจจะอยู่ในระดับ สนใจ  อย่างเช่น  ดไวท์ ไอเซนฮาวร์  โรนัลด์ เรแกน และจอร์จ บุช  ในขณะที่บิล คลินตันก็เคยพยายามสื่อภาพว่าเป็นคนรักมอเตอร์ไซค์ในช่วงระหว่างรณรงค์หาเสียงเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก  แต่ที่ได้ชื่อว่าเป็น นักบิดตัวจริงคนหนึ่งก็คือจอห์น เคอรี่ รัฐมนตรีต่างประเทศ รวมทั้งอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ในฐานะผู้ว่าการรัฐแคลิเฟอร์เนีย ที่คนอเมริกันยังคงประทับใจภาพมอเตอร์ไซค์คันดุสวมแว่นดำถือปืนโตในภาพยนต์เรื่อง Terminator 2 แบบไม่จางหาย



ประธานาธิบดี จิลมา รูเซฟแห่งบราซิลก็เคยแอบซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ให้รัฐมนตรีว่าการความมั่นคง แห่งสังคมเป็นผู้ขับตระเวนไปทั่วเมืองหลวงแบบปิดบังไม่มีใครทราบไม่มีใคร เห็น ชนิดที่ทำให้คนบราซิลทั้งประเทศช๊อคแบบไม่เชื่อ แต่สุดท้ายก็พากันชื่นชมในตัวผู้นำหญิงคนนี้ที่แสดงออกซึ่งภาพลักษณ์ของความ เป็นปุถุชนคนหนึ่ง ว่ากันว่า ถึงแม้จะเป็นผู้หญิงวัยเกิน 60 แล้ว แต่ท่านผู้นำหญิงก็เกิดหลงใหลมนต์เสน่ห์ของช๊อปเปอร์คันใหญ่ขึ้นมาทันที 



ผู้นำระดับโลกที่รู้จักใช้ประโยชน์จากมอเตอร์ไซค์เพื่อผลทางการเมืองมากที่สุดคนหนึ่งก็คือ  ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย  เป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่า ปูตินชอบแสดงออกให้โลกเห็นว่าเป็นผู้นำที่มากความสามารถได้ทั้งบู๊ทั้งบุ๋น สามารถทำอะไรๆได้หมด โดยเฉพาะการแสดงออกให้ประจักษ์ว่าเป็นผู้นำแบบชายชาตรีมีสามศอกทรหดแข็งแรงที่สุด ตั้งแต่ว่ายน้ำ ขี่ม้า ขับเครื่องบิน ขับรถแข่ง เล่นยูโด และอีกสารพัด





แต่การขับมอเตอร์ไซค์กลับมีความหมายมากที่สุด นอกเหนือจากการขับมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน(สามล้อ) เพื่อโชว์ความเป็นแมนๆแล้ว ปูตินกลับใช้ประโยชน์เพื่อผลทางการเมืองอย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะการประกาศนับญาติเป็นพี่น้องกับกลุ่ม หมาป่าราตรีซึ่งถือเป็นกลุ่มมอเตอร์ไซค์ที่ใหญ่ในประเทศมีสมาชิกกว่าห้าพันคน จนประสบความสำเร็จในดึงกลุ่มที่ทรงพลังที่สุดกลุ่มหนึ่งในประเทศเข้าเป็นพวกอย่างสนิทใจด้วย

แก๊งค์ หมาป่าราตรี” (ที่ดูเหมือนเป็นกองทัพทหารนี้) ได้สร้างคุณูปการทางการเมืองให้แก่ปูตินอย่างมาก เพราะทำหน้าที่เป็นกองกำลังแนวหน้า(แบบเนียนๆ)เปิดทางให้มีการบุกยึดไครเมียร์แยกออกจากยูเครนเมื่อปีที่แล้ว จนหัวหน้าแก๊งค์ถูกขึ้นแบล็คลิสต์จากรัฐบาลสหรัฐฯเมื่อปลายปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ภาพของปูตินขับรถฮาร์เลย์ เดวิดสันอย่างทะมัดทะแมงนำขบวนแก็งค์ หมาป่าราตรีรุกคืบเข้าไปในยูเครน(ก่อนยึดจริง) ถูกเปรียบเทียบกับภาพความเป็นแฟมิลี่แมนของประธานาธิบดีบารัค โอบาม่าขณะกำลังปั่นจักรยานธรรมดาๆ ว่านี่คือความแตกต่างระหว่างผู้นำที่เข็มแข็งและผู้นำที่อ่อนแอ(?)



แต่ผู้นำที่ดูเหมือนเท่ห์ที่สุดก็คือรัฐมนตรีคลังคนปัจจุบันของกรีซ ที่หลงใหลและขับมอเตอร์ไซค์ไปทำงานและร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีโดยไม่อายใคร จนสื่ออังกฤษขนานนามว่า นักบิดมาสซิสต์
 


ในบรรดานายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ต้องถือว่า พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณเป็นผู้นำไทยคนแรกๆที่หลงใหลมอเตอร์ไซค์ช็อปเปอร์มานานแล้ว (เหมือนเช่นกษัตริย์ฮุสเซนแห่งจอร์แดนและอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โตแห่งอินโดนิเซีย) แต่ไม่เคยปรากฏภาพหรือเป็นข่าวมาก่อนเลย จนกระทั่งก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 17 ของประเทศในปีพ.ศ. 2531



ทั้งนี้ ก่อนที่รับตำแหน่ง พลเอกชาติชายเคยยอมรับว่า อายุมากแล้ว ตอนนี้ผมอายุ 69 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีตอนอายุ 70-71 ปี ไม่สนุกแน่ ผมแก่แล้วทำไม่ไหว  แต่เมื่อรับตำแหน่งหน้าที่ผู้นำประเทศแล้ว พลเอกชาติชายไม่อาจปล่อยให้สังคมมอง(ผิดๆ)ว่าเป็น ผู้นำแก่ที่ไร้น้ำยาได้   มิฉะนั้น จะกลายเป็นอุปสรรค(ทางจิตวิทยา) ต่อการบริหารประเทศได้ ทำให้ประชาชนหมดความเชื่อถือตั้งแต่ต้น

ด้วยเหตุนี้ มอเตอร์ไซค์จึงถูกเลือกใช้ให้เป็น เครื่องมือ หนึ่งในการสร้างภาพพจน์ของท่านผู้นำอย่างได้ผล  ทำให้ น้าชาติ” (ไม่ใช่ ลุงชาติ”) กลายเป็นคนที่ดูกระฉับกระเฉง มีชีวิตชีวาและร่ำรวยเสน่ห์ จนได้รับฉายาว่า น้าชาติมาดนักซิ่ง อย่างเหมาะสมที่สุด

สำหรับ น้าชาติแล้ว ความรู้สึกที่ว่า ความสนุกสนานในอายุผมดูเหมือนจะหมดไปแล้ว นั้น จะไม่หมดจริงยามเมื่ออยู่บนหลังอานมอเตอร์ไซค์คันโปรด

การสร้างอนุสาวรีย์ของ น้าชาติคู่กับมอเตอร์ไซค์ และภาพ 3 มิติของพลเอกชาติชายขี่ช็อปเปอร์  ที่จังหวัดนครราชสีมา ย่อมเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของอดีตนายกรัฐมนตรีคนนี้ได้เป็นอย่างดี


การขับขี่รถช็อปเปอร์ของพลเอกชาติชายต้องถือเป็นความชอบความหลงใหลเป็นรสนิยมส่วนตัวอย่างแท้ จริง  (ควบคู่กับการเต้นรำ)  แต่ ภาพที่สังคมเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรกำลังขับขี่มอเตอร์ไซค์ผู้หญิงสีเหลืองต้องถือเป็นภาพที่ตรงกันข้าม กับภาพของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นิยมสูบซิการ์อย่างสิ้นเชิง



ดูเหมือนว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้มีพื้นฐานชื่นชอบหลงใหลในมอเตอร์ไซค์เหมือนพลเอกชาติชาย และคงไม่มีมีความคิดที่จะเริงร่าหาความสนุกจากการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างแน่นอน  แต่พ.ต.ท.ทักษิณเลือกขับขี่มอเตอร์ไซค์แบบบ้านๆที่ชาวต่างจังหวัดนิยมใช้  (นอกเหนือจากการการอาบน้ำนุ่งผ้าขาวม้า กินข้าวกับชาวบ้าน และนอนวัด  เพื่อสื่อสารและสร้างภาพพจน์ทางการเมืองว่า เป็นกันเองหรือไม่แปลกแยกกับประชาชน 

ถึงแม้จะมีความรักหลงใหลที่แตกต่างกันอย่างมาก แต่ทั้งพลเอกชาติชายและพ.ต.ท.ทักษิณเลือกใช้มอเตอร์ไซค์ในฐานะ เครื่องมือสร้างภาพพจน์มากกกว่าการเป็นเพียง ยานพาหนะเพื่อสัญจรหรือเป็นงานอดิเรกเพื่อความสนุกสนาน 



ล่าสุด แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาก็ขับขี่มอเตอร์ไซค์สวมหมวกแก๊ปสีแดงอวดโชว์รอบทำเนียบจนเป็นข่าวฮือฮา เข้าใจว่า น่าเป็นการขับขี่แบบไม่มีสคริ๊บเขียนล่วงหน้าเพื่อผลทางการเมืองใดๆ อุปมาเหมือนบิ๊กตู่เห็นมอเตอร์ไซค์แล้ว อดเปรี้ยวไม่ได้ (เพราะมีความชอบความหลงใหลเป็นทุนเดิมที่ไม่ต่างจากพลเอกชาติชาย) เหมือนเช่นอดีตนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวชที่เห็นโต๊ะทำอาหารเมื่อไหร่เป็นต้องรีบปลี่เข้าไปทันที

เพราะฉะนั้นแล้ว  มอเตอร์ไซค์สำหรับท่านผู้นำแต่ละคน อาจจะมีความหมายหรือความสำคัญแตกต่างกันได้เสมอ






.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มอเตอร์ หรือ สติกเกอร์

เมื่อตอนที่ Real Madrid ทีมดังในสเปนตัดสินใจขาย Claude Makelele ให้กับทีม Chelsea แล้วซื้อ David Beckham มาแทนที่ในช่วงกลางปี 2003 ปรา...